GFPT-CPF ตีปีกรับข่าวดี AEC ชี้ชัดปีนี้ส่งออกไก่โตกระหึ่ม
Source - ทันหุ้น
ทันหุ้น - GFPT-CPF รับข่าวดีโบรกส่องธุรกิจส่งออกไก่ปีนี้สดใสหลังจากเปิดAECในปี2558แนะ"ซื้อ"เป้าหมาย 12.70 บาทและ 45 บาท ตามลำดับ ฟากผู้บริหารGFPTมองเป็นสัญญาณที่ดี ชูจุดเด่นไทยเป็นฐานอุตสาหกรรมอาหาร ส่วนผู้บริหาร CPF ปักธงยอดขายปี 2555 เกิน3แสนล้านบาทเทียบปี2554 ที่คาดยอดขายที่ 2.1-2.2 แสนล้านบาทจากการรับรู้รายได้ธุรกิจต่างประเทศหนุน
นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือAECในปี2558จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมแปรรูปไก่ของไทย เนื่องจากมีเทคโนโลยีในการเลี้ยงไก่ที่ได้มาตรฐานสูงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทั้งนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกควรหันมาสนใจเจรจาส่งออกสินค้าแปรรูปจากไก่ปรุงสุกดีกว่าไปเสียเวลาเจรจาโควตาส่งออกไก่แช่แข็งเนื่องจากสามารถทำรายได้เข้าประเทศได้มากและลดความเสี่ยงต่อไข้หวัดนกสำหรับปี2555ถือเป็นปีทองของไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์ โดยคาดว่าจะมีผลผลิตทั้งหมด 1.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี2554 ที่ไทยผลิตไก่เนื้อได้ถึง 1.4 ล้านตัน เนื่องจากการแข็งตัวของค่าเงินหยวนและค่าจ้างของจีนที่สูงขึ้น ทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกมากขึ้นตามไปด้วย แต่ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของไข้หวัดนกอย่างเข้มงวดเพื่อให้ผลผลิตเป็นไปตามเป้าหมาย ด้านคู่แข่งในการส่งออกไก่เนื้อของไทยคือ สหรัฐ ซึ่งมีปริมาณผลผลิต17ล้านตันต่อปี รองลงมาคือจีน
นางสาวจุฑามาส อิงโพธิ์ชัยผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)หรือGFPTเปิดเผยถึง กรณีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือAECในปี 2558จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมแปรรูป ไก่ของไทยเนื่องจากมีเทคโนโลยีในการเลี้ยงไก่ที่ได้มาตรฐานสูงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จากกรณีข้างต้น บริษัทมองว่าประเทศไทยมีจุดเด่น ในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งด้านมาตรฐานและการยอมรับจากทั่วโลกถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี ในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยจะส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมแปรรูปไก่ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีระบบการป้องกันโรคที่ดีมีการสร้างโรงเรือนที่เป็นมาตรฐานและมีวัคซีนป้องกันโรคระบาดได้ ซึ่งบริษัทเองถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุก ที่คำนึงถึงคุณภาพ และความปลอดภัยจากเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานสูงรับรองเช่นเดียวกันo ตั้งเป้าฟันรายได้ 10%
ด้านแผนการดำเนินงานในปี2555บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% หรือประมาณ 15,000ล้านบาท จากปี2554ที่คาดการณ์ไว้ประมาณ14,000ล้านบาท โดยจะมาจากการเติบโตของธุรกิจเลี้ยงไก่มีชีวิตรวมถึง ธุรกิจอาหารสัตว์ที่คาดว่าจะมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ขณะที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนไก่เลี้ยงมากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าจะเลี้ยงไก่3แสนตัวต่อวันในปี2558จาก2.5แสนตัวในขณะนี้ โดยในปีนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนจำนวน800 ล้านบาท เพื่อนำไปขยาย ฟาร์มเลี้ยงพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ไก่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า และขยายสายการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อรองรับการผลิตในอนาคตด้วยงบลงทุนที่ตั้งไว้ในปีนี้ประมาณ800 ล้านบาท
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2555 เกิน3 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 2554 ที่คาดว่ามียอดขาย 2.1-2.2 แสนล้านบาท โดยยอด ขายในปีนี้จะรวม การรับรู้รายได้จากกิจการใหม่ ในต่างประเทศแล้ว ซึ่งล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการในประเทศจีนและเวียดนามที่จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2555 อย่างไรก็ตามบริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยยึดโมเดลFreez Farm Foodซึ่งการที่บริษัทเข้าซื้อกิจการในจีนและเวียดนาม เนื่องจากมองว่าประชากรจำนวนมากส่งผลต่อฐานธุรกิจ และเป็นประเทศที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงo GFPT-CPF เด่น
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ประเมินแนวโน้มการส่งออกไก่แปรรูปในปี2555ยังสดใส คาดเห็นการเติบโตของปริมาณขาย 28.6% จากปีก่อนน่าจะเป็นผลบวกต่อผู้ผลิตและส่งออกไก่ของไทยโดยแนะ"ซื้อ" บมจ.จีเอฟพีที ให้ราคาเหมาะสมปี 2555 เท่ากับ 12.70 บาท และแนะ "ซื้อ"บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ให้ราคาเหมาะสมปี 2555 เท่ากับ 45 บาท เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไก่ราว 8% และ 44%ของรายได้รวมทั้งหมด
บรรยายใต้ภาพ
อดิเรก ศรีประทักษ์--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
