Showing posts with label PTTEP. Show all posts
Showing posts with label PTTEP. Show all posts

Wednesday, April 25, 2012

Stock Focus,PTTEP,

PTTEP

ตามที่ PTTEP ประกาศความประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่ออกแล้วและยังไม่ได้ออกทั้งหมดของบริษัท Cove Energy Plc. ("Cove") เมื่อ 24 ก.พ.55 ในการนี้มีผู้ประกอบการรายอื่นทำ คำเสนอซื้อหุ้น Cove แข่งขันกับ PTTEP โดยบริษัท Shell Exploration and Production (XL) B.V. ("Shell") เสนอซื้อที่ราคา 220 เพนซ์ต่อหุ้น เป็นราคาเดียวกับที่ PTTEP เสนอซื้อ และเป็นการปรับราคาขึ้นจากการเสนอในครั้งก่อนที่ 195 เพนซ์ต่อหุ้น รัฐบาลโมซัมบิกอาจจะมีความเชื่อมั่นใน Shell มากกว่า PTTEP หากมีการเสนอซื้อด้วยราคาที่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม การซื้อครั้งนี้มีมูลค่า 1,120 ล้านปอนด์ (55,888 ล้านบาท)



Cove เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด Alternative Investment Market (AIM) ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange) โดยมีสินทรัพย์หลักคือ การถือครองสัดส่วนร้อยละ 8.5 ในแปลงสัมปทาน Rovuma Offshore Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก โดยแปลงสัมปทานดังกล่าวนั้น เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ (World Class Gas Discovery) และคาดว่าจะมีปริมาณสำรอง (Resource) ถึงประมาณ 30 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (Trillion Cubic Feet - TCF) รวมถึง Black Pearl Oil Prospect นอกจากนี้ Cove ยังถือสัดส่วนร้อยละ 10ในแปลงสัมปทาน Rovuma Onshore Area สาธารณรัฐโมซัมบิก รวมถึงการถือสัดส่วนร้อยละ 10 - 25 ในแปลงสัมปทานน้ำลึกอีก 7 แปลงในประเทศเคนยา

ความเห็น: การที่ Shell ปรับขึ้นราคาเสนอซื้อขึ้นมาเท่ากับที่ PTTEP มีแนวโน้มมากกว่า PTTEP อาจไม่ชนะการประมูลครั้งนี้ คาดว่าไม่ได้มีผลได้ผลเสียแต่อย่างใดในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้เกิด Overhang ให้กับ PTTEP ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนบางส่วนเกรงว่าจะเกิดการเพิ่มทุน เราเชื่อว่าเมื่อเรื่อง Cove คลี่คลายลง จะลดแรงกดดันทาง Sentiment ต่อหุ้น PTTEP ลงไปได้ และหุ้น PTTEP น่าจะกลับมาถูกซื้อขายที่ Fundamental ซึ่งเราเชื่อว่างบการเงินในไตรมาส 1/55 ที่เรา Preview ไปแล้วคาดมีกำไรสุทธิเท่ากับ 15.2 พันล้านบาท และคาดว่ากำไรจะยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/55 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 209 บาท (ราคาปิโตรเลียมที่ขายได้ในไตรมาสที่ 1/55 คาดการณ์ที่ 64 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับ 4Q54 ที่ 61 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล) ปริมาณการผลิตในไตรมาส 1/55 เพิ่มจากไตรมาส 4/54 ประมาณ 2-3% เป็น 255,000 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับที่ PTTEP ประมาณการทั้งปีเฉลี่ยที่ 284,000 บาร์เรลต่อวัน เราเชื่อว่าอีก 9 เดือนที่เหลือของปี ปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นตัว Driver นอกเหนือจากราคาขายที่ดีมาตั้งแต่ต้นปีที่ Drive กำไรในไตรมาส 1/55 ขณะนี้
PTTEP ไตรมาส 1/55 มีกำไรสุทธิ 1.83 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 5.51 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ และสูงกว่าไตรมาสก่อนที่กำไร 15 หมื่นล้านบาท และมากกว่าเราคาดการณ์ที่ 15.2 หมื่นล้านบาท แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 209 บาท
Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Monday, April 23, 2012

Stock Focus,24,PTT,PTTEP.Apr.2012.,


เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,



Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.
เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

TOP, BCP, IVL, PTTEP, JAS

มองทางลดพอร์ตและ Selective Buy

เราเห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นเมื่อเข้าใกล้โซน 1,200 จุด อาจจะไปต่อไม่ไหวเนื่องจากปัจจัยบวกที่จะหนุนต่อเริ่มลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มหุ้น Undervalued อีกมาก ในกลุ่มปิโตรเลียมต้นน้ำ เช่น PTTEP, PTT, TOP และเรายังมองความหวังว่าธุรกิจปิโตรเคมี ยางพาราอาจมีโอกาสฟื้นสเปรดได้ในช่วง 2H55 ในขณะที่หุ้นอยู่ในเกณฑ์ราคาต่ำ เช่น PTTGC, IVL, STA อย่างไรก็ตาม แม้เราจะชื่นชอบกลุ่ม Commerce และธนาคารพาณิชย์มาโดยตลอด แต่ไม่แนะนำลุยซื้อต่อ เนื่องจาก PER สูงมาก บางทีจะสูงเกิน Growth ที่บริษัทจะทำได้ เราแนะนำให้รอซื้อกลุ่มเหล่านี้เมื่อราคาอ่อนตัว เช่น HMPRO, CPALL, BIGC กลุ่มธนาคารพาณิขย์ รอซื้ออ่อนตัวใน SCB, KBANK, TCAP เป็นต้น
  • ประชุม รมว.คลังจี-20 หนุนเพิ่มทุน IMF กว่า 430,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศชั้นนำจี-20 ออกแถลงการณ์หลังการประชุมเป็นเวลา 2 วัน (19-20 เม.ย.55) ที่กรุงวอชิงตันว่า รมว.คลังจี-20 แสดงความมุ่งมั่นแข็งแกร่งที่จะเพิ่มทุนทรัพย์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กว่า 4.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรัสเซียจะสมทบทุน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ การสนับสนุนจากรัสเซีย//จีน และบราซิลมีความสำคัญต่อการเพิ่มขนาดกองทุนของไอเอ็มเอฟขึ้น 2 เท่า ขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นประกาศแล้วว่าจะสมทบทุน 3 แสน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ที่ประชุมยอมรับว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญได้เริ่มลดน้อยลง แต่คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสำหรับปี 2555 จะยังคงอยู่ในระดับปานกลาง ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพการเงินโลก และเฝ้าระวังราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง
  • ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือน เม.ย. และผลประกอบการของสหรัฐฯดีกว่าที่คาดไว้ ความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมันดิบได้แรงหนุนหลังจากที่เยอรมนีซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซนเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 10 เดือนในเดือน เม.ย. ซึ่งช่วยชดเชยความวิตกเกี่ยวกับปัญหานี้ยุโรปและเป็นแรงหนุนยูโร นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการจากบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งรวมถึงเจเนอรัล อิเล็คทริค (จีอี), ไมโครซอฟท์ และแมคโดนัลด์สูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันดิบ ปัจจัยที่ดีขึ้นดังกล่าว เราเชื่อว่าอาจจะหนุนราคาหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันดิบ เช่น PTTEP และ PTT มากกว่า BANPU 
  • ราคาถ่านหินปรับตัวลดลงต่อเนื่อง: ราคา BJI ที่ประกาศล่าสุด ณ 19 เม.ย.2555  เท่ากับ 103.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน (-1.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน) เป็นการลดลงต่อเนื่องนับจากต้นปีที่อยู่ที่ราว 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สะท้อนความอ่อนแอของดีมานด์โลก โดยราคาถ่านหินเริ่มไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันมากนัก ยิ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อ BANPU เพราะต้นทุนเป็นน้ำมันดีเซลบางส่วน ซึ่งราคาปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ แม้เรามองปัจจัยพื้นฐานของ BANPU ระยะยาวว่าดี และคาดว่ายังมี Fair Value ระดับ 725 บาท แต่ระยะสั้น ใน 1H55 เรากลับยังเห็นความสำคัญของหุ้นในกลุ่ม PTT ที่เป็นต้นน้ำมากกว่าเช่น PTTEP, PTT รวมไปถึง TOP, PTTGC, BCP ที่ Undervalued มากกว่า ราคาถ่านหินลดลง ให้ประโยชน์ในทางอ้อมต่อโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เช่น GLOW
  • การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน อาจให้ผลกระทบทางลบเมื่อปฏิบัติใช้ในปี 2556: นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีแรงงาน แถลงยืนยันว่า จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทใน 70 จังหวัดที่เหลือ วันที่ 1 ม.ค. 2556 ตามกำหนดโดยจะไม่เลื่อนออกไปเป็นปี 2558 ตามที่สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอหลังจากการหารือกับภาคเอกชนไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ปัจจุบันจะยังมีภาคธุรกิจเสนอให้รัฐบาลเลื่อนขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอีก 70 จังหวัดออกไปเป็นปี 2558 เพราะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 40% จนอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระได้ และอาจทำให้ส่งผลกระทบทางลบแทนที่ เพราะคาดว่าเมื่อปฏิบัติใช้จะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น (ที่มา : ไทยรัฐ 23 เม.ย.  55)
  • Vajiralux Sanglerdsillapachai

    Read more »