Showing posts with label STA. Show all posts
Showing posts with label STA. Show all posts

Thursday, April 26, 2012

Stock Focus,STA,CPF,GFPT

 

CPF, KBANK, JAS, GFPT, STA

Selective Buy หุ้นน่าสนใจ ไม่ตามภาพตลาดโลก

เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยยืนได้ในโซน 1,180-1,215 จุด ได้ แม้ว่าจะไม่พึ่งกลุ่มใหญ่อย่างพลังงาน ซึ่งแม้ประกาศผลประกอบการดี แต่ไม่สนองตอบต่อราคาหุ้นในทางที่ดีตาม เช่นวานนี้ PTTEP กำไรสุทธิ 18 พันล้านบาท กำไรทำ All Time High และ Outlook ไตรมาส 2/55 ยังมีแนวโน้มทำกำไรได้ในระดับเดียวกันหรือดีกว่า แต่ราคาหุ้นไม่สนองในทางบวก คาดว่าถ้าจะมาคงมาเป็น Theme หลักตามกระแสโลก ซึ่งเชื่อว่ารอเวลาสักพักก็จเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ SET ยืนราว 1,230-1,250 และต้องพาตัวเองขึ้นไปที่ 1,300-1,350 จุด เวลานั้นน่าจะมาอาศัยหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ดังนั้นระยะสั้น เรายังแนะนำการทำ Selective Buy หุ้นที่มีข่าวดีน่าสนใจรายตัวหรือรายอุตสาหกรรมไปก่อน

ปัจจัยวันนี้

(+)ประชุมเฟด: เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงว่า เฟดมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และยังกล่าวด้วยว่า เขาเตรียมที่จะใช้งบดุลบัญชีของเฟด เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น
(+)ADB คาดเงินทุนอาจไหลทะลักเข้าตลาดเกิดใหม่ในปีนี้: หนีปัญหายุโรป: การไหลเวียนของกระแสเงินทุนเข้าสู่ภูมิภาคในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจะดันสกุลเงินภายในประเทศขึ้น, เน้นย้ำคาดการณ์การแข็งค่าของสกุลเงิน และกระตุ้นเงินทุนไหลเข้าต่อไป ADB ระบุว่า เอเชียตะวันออกเกิดใหม่ได้แก่ จีน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไทย และเวียดนาม

(-/+)พบเชื้อวัวบ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ: ผลดังกล่าวทำให้เกิดการปรับตัวลงของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเนื้อวัน เช่นหุ้นแมคโดนัลด์ ในสหรัฐฯ อย่างมากช่วงวันอังคาร (ของสหรัฐฯ) แต่แล้ววันพุธ ทางการสหรัฐฯ ออกมารับรองว่าจะไม่มีเนื้อวัวจากฟาร์มแคลิฟอร์เนีย เข้ามาใน Food Supply ของสหรัฐฯ ทำให้ประเทศผู้นำเข้าเนื้อวันรายใหญ่จากสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเม็กซิโก ยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายในการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ แต่ผู้ค้าปลีกเนื้อวัวรายใหญ่ 2 รายในเกาหลีใต้ได้นำเนื้อนำเข้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมดออกจาก shelves (ที่มา: ข่าว Bloomberg) ความเห็น: เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวยังคงส่งผลจิตวิทยาต่อ Health Conscious ของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศผู้บริโภคเนื้อวัว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาจจะงดการซื้อ-บริโภคเนื้อวัวเป็นการชั่วคราว หากเรื่องวัวบ้ายังไม่ยุติได้เร็ว จะส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการส่งออกไก่ ซึ่งไก่เป็นสินค้าทดแทนเนื้อวัว โดยเฉพาะไตรมาส 2 และ 3 เป็น High Season ของการส่งออกไก่ เราจึงแนะนำซื้อ CPF และซื้อเก็งกำไร GFPT ทั้งนี้เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/55 ทั้งสองบริษัท เผชิญกับภาวะตกต่ำของราคาเนื้อไก่ในประเทศ คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานของ CPF เท่ากับ กำไรสุทธิเท่ากับ ... ล้านบาท มีกำไรพิเศษ ... ล้านบาท จากการควบรวมกิจการ ส่วน GFPT เราคาดว่าไตรมาส 1/55 ขาดทุนราว 20-30 ล้านบาท เรื่องความวิตกกังวลต่อเชื้อวัวบ้า ที่เคยระบาดในยุโรป ส่งผลให้การส่งออกไก่ดีมาก GFPT จะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้มากกว่า CPF ราคาเป้าหมาย ของ CPF เท่ากับ 45 บาท แนะนำซื้อ ส่วนราคาเป้าหมาย GFPT เรายังเป็น 10.50 บาท จึงแนะนำเพียงซื้อเก็งกำไร
(+)Malaysia Top Fund กำลังซื้อหุ้น Consumer และ Plantation Stocks: Kenanga Growth Fund เป็นกองทุน best performing ที่สุดของมาเลเซียในปีที่ผ่านมา เราสะดุดที่การจะเข้ามาซื้อ Plantation stocks ซึ่ง ถ้าเป็นในประเทศมาเลเซียเองจะเน้นไปที่ธุรกิจปาล์มน้ำมัน แต่หากซื้อใน Regional ในส่วนนี้ของไทยเราก็มีความน่าสนใจที่ STA, TRUBB, PTT (ทำสวนปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย) ราคาหุ้นเหล่านี้ของเราถูกกดลงด้วยความเป็น Commodity ไม่ปลอดภัยเวลาตลาดผันผวน แต่ขณะนี้ Undervalued มากเกินไป
(+)STA: คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 ก็อาจจะไม่สดใสอย่างที่เราเคยคาดหวังว่าจะได้ถึง 1,600-1,800 ล้านบาท แม้จะมีการกลับรายการ Stock Gain เกิดขึ้นประมาณ 800 ล้านบาท แต่ผลดำเนินงานในไตรมาส 1/55 อาจจะยังไม่ฟื้นตัวทันที แม้ราคายางปรับตัวขึ้นมาแล้ว ทั้งนี้ไตรมาส 1/55 มีช่วงที่ราคายางผันผวน ทำให้การผลิตบางล็อตมีการขาดทุนเกิดขึ้น เราจึงคาดว่ากำไรไตรมาส 1/55 อาจจะได้เพียง 1,100-1,200 ล้านบาท (รวม Stock Gain แล้ว) อย่างไรก็ตาม นโยบายของรัฐในการพยุงราคายางไม่ให้ต่ำกว่า 120 บาท ต่อ กก.คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ราว พ.ค.นี้ อาจมีส่วนช่วยให้ราคายางมีเสถียรภาพ และต้องรอวัดกำไรที่ดีของ STA ในไตรมาส 2/55 มีโอกาสทำได้ดีกว่าไตรมาส 1/55 อย่างมาก แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 28 บาท
Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Monday, March 19, 2012

Stock Focus,SAT,CK,TICON,JAS,PTTGC,19.Mar.2012., 10.41



 
Every day may not be good,
but there is something good in every day.
ทุก ๆ วันอาจจะไม่ใช่วันที่ดี แต่มันก็มีสิ่งดี ๆ บางสิ่งเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน



SAT, CK, TICON, JAS, PTTGC

Trend Following

นอกเหนือจาก Fund Flow ที่กำลังเทเข้าตลาดหุ้น Emerging Market รวมถึงไทย (ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยไทยตั้งแต่ต้นปีรวม 2,035 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ +465% YTD) นักลงทุนอาจจะต้องพิจารณาว่ากลุ่มอุตสาหกรรมหรือหุ้นนั้นอยู่บน Mega Trends ที่กำลังมาหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่อาจจะการตัดสินใจซื้อ-ขายหุ้น เราเชื่อว่า Mega Trends ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเกิด Urbanization(การขยายหรือกระจายออกไปของสังคมเมือง) รวมถึงการได้ประโยชน์หากมีการเปิด AEC การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของคน จะสร้าง Mega Trends ได้ชัดในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม คาดว่าเริ่มที่ ICT, อาหาร, ค้าปลีก (ได้จากการเกิด Urbanization) ใน Emerging Market เป็นศูนย์กลางการเกิดสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าในบางครั้งจะมีการส่งสัญญาณในทางลบ เช่น การที่ประเทศจีนส่งสัญญาณเศรษฐกิจเติบโตไม่สูง จะเกิด Trend ภาพลบต่อหุ้นคอมมอดิตี้ (แต่ก็คาดว่าเป็นช่วงสั้น ถ้าไม่เผชิญปัญหาว่าราคาน้ำมันแพงขึ้นต่อเนื่องมากไป สักพักสเปรดก็อาจกลับมาดีขึ้นได้อีก) อย่างนี้อาจต้องหลบพลังงาน ปิโตรเคมี และโภคภัณฑ์ แต่หากวิเคราะห์แล้วสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียง Sentiment เช่นบอกกล่าวเล่าว่าวันนี้ทางการจะปรับราคาน้ำมันขึ้น ขึ้นราคา LPG แก๊สโซฮอล บางทีข่าวเหล่านั้นไม่มีนัยยะมากนักทำให้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยนไป การลงทุนจากนี้ต้องดู Mega Trends เช่นโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนมาแรง จะทำให้กิจการของกลุ่มโทรศัพท์มือถือเติบโตดีขึ้นอีกระลอกใหญ่ หรือ Trend TV ดาวเทียมเกิดแน่ ต้องพิจารณาว่า MCOT เสียประโยชน์ RS, GRAMMY, WORK ได้ประโยชน์ เป็นต้น สัปดาห์นี้นำเสนอภาพ Trend ของ Broadband Business หุ้นที่เกี่ยวจะมี JAS, TRUE เราแนะนำซื้อ JAS และเก็งกำไร TRUE นอกจากนี้เรายังเห็นว่าอาจจะมี Mega Trends ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งมองว่า Trend ใหญ่เกิดบนพลังงานต้นน้ำ เปลี่ยนจาก Conventional ไปเป็น Unconventional จะทำให้เกิด Earnings ใหม่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังจับจ้องเพียงการเกิด Green Energy ซึ่ง Green Energy นั้นเรายังวัดความสำเร็จอย่าง Sizeable ได้ค่อนข้างยากหลังจากเปิดโครงการใหม่


(+)น้ำมัน: ราคาน้ำมันทะยานขึ้น ตามการแข็งค่าของยูโรเทียบดอลลาร์ ซึ่งการร่วงลงของดอลลาร์มักจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากจะทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่น ๆ ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดเกิดปฏิกริยาบวกต่อข่าวที่ว่าสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับอังกฤษในการระบายน้ำมันจากคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งได้มีการออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกได้ส่งผกระทบต่ออุปทานน้ำมันในภูมิภาคดังกล่าว

(+)SAT: มาทั้งแนวหุ้น Turnaround และหุ้น Mega Trends จากการที่อุตสาหกรรมรถยนต์ปี 2555 คาดว่าจะฟื้นตัวแรง เป้าผลิตรถยนต์ปีนี้ 2.1 ล้านคัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ เติบโตจากปีก่อนถึง 44%  การย้ายฐานของค่ายรถยนต์ต่างๆ จะทำให้ยอดผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นเป็น 2.7 ล้านคัน ในปี 2558  ผู้บริหาร SAT ตั้งเป้ายอดขายปี 2555 โตมากกว่า 35%  แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ SAT อาจได้ออร์เดอร์รถอีโคคาร์ 4 ค่ายยักษ์ ทั้ง NISSAN-HONDA-MITSUBISHI-SUZUKI และ ยังได้แรงหนุนจาก Kubota ย้ายฐานเข้ามาผลิตในไทยมากขึ้น  เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ 870 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 2.56 บาท) พุ่งขึ้น 113% ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งยอดขายและกำไร  ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาแรง แนะนำรอ จังหวะซื้อในช่วงอ่อนตัว ประเมินราคาเป้าหมาย 30 บาท 

(+)JAS:  เมื่อวันที่18 มี.ค.55 กระทรวงศึกษาธิการได้หารือถึงแนวทางการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 4 แสนคนทั่วประเทศ กำหนดใช้งบประมาณ4,000 ล้านบาท  เห็นชอบให้ทันแจกในวันเปิดภาคเรียนที่ 2/2555  คาดว่าทั้งโครงการจะแจกรวมประมาณ 860,000 เครื่องทั่วประเทศ ปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนกระตุ้นทำให้เกิดดีมานด์ของ Broadband เพื่อติดตั้งในบ้านในเวลาต่อมา สร้างผลบวกที่ดีต่อ JAS และ TRUE

(+)PTTGC: ซัพพลายใหม่ของปิโตรเคมีต้นน้ำในปี 2555 ยังไม่น่าวิตกกังวล เพราะเป็นปีที่ซัพพลายเข้ามาน้อยกว่าสองปีที่ผ่านมาทั้งสายโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ เราแนะนำซื้อ PTTGC เป็น Trend Following ด้วยอีกทั้งราคาหุ้นถูกเกินไป ราคาเป้าหมายปี 2555 89 บาท

BY  Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Wednesday, February 8, 2012

Stock Focus,STA,8,FEB,2005., 9.41

STA ประเด็นสำคัญที่เราได้รับจากการพบผู้บริหาร คือคาดว่าไตรมาส 4/54 ผลประกอบการที่ออกมาอาจจะแย่กว่าที่เราคาดไว้เดิมว่าจะยังคงเหลือกำไร 39 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผลขาดทุนในไตรมาสนี้ แต่ไตรมาส 1/55 เราพบว่ากำลังการผลิตที่เตรียมรองรับรวมประมาณ 1.00-1.15 ล้านตันเริ่มผลิตได้เกือบเต็มที่เต็มกำลังการผลิต อีกทั้งราคายางปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจาก 3 เดือนก่อนสิ้นปี 2555 แม้จะยังไม่มั่นใจว่านโยบายที่ภาครัฐออกมาประกันและชี้นำราคายางพาราที่ 120 บาท ต่อ กก. จะทำให้ราคายางยืนสูงได้จริง แต่ดีมานด์โดยรวมเริ่มกลับมา มีเพียงในจีน ซึ่งยังคงมีสต๊อกยางเก่าราคาราว 4 เหรียญฯ ต่อ กก.ค้างอยู่จำนวนหนึ่ง คาดว่าจะหมดไปได้ราว 1-2 เดือนข้างหน้า และอาจเริ่มซื้อสต็อกเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้อุตสาหกรรมยางรถยนต์ ก็จะดีขึ้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ STA มีเป้าหมายการปลูกยางให้ได้ 50,000 ไร่ในปี 2014 แต่ปัจจุบันเริ่มปลูกไปราว 10,000 ไร่ แต่ยังไม่ได้ผลผลิตต้องรออีกราว 5 ปี (จะกรีดยางได้ต้องรออายุ 7 ปี) ซึ่งเราเชื่อว่า Gross Margin ของ Plantation สูงในระดับราว 30% ขึ้นไป (ต้นทุนรวมการจ้างกรีดยาง 80 บาท กก.) การบันทึกบัญชีของสวนยาง จะสร้างมูลค่าเพิ่มต่อ Book Value ในอนาคตของ STA อย่างมีอัตราการเติบโต เราจึงเห็นควรให้มองข้ามผลประกอบการรายไตรมาส โดยเฉพาะไตรมาส 4/54 ที่ไม่สดใส และคาดว่าพ้นปี 2555 เป็นต้นไป แผนของบริษัทในการเพิ่มกำลังการผลิต และการก้าวสู่ธุรกิจ Plantation (ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่นอินโดนีเซีย และพม่า) จะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่กิจการ เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายคงเดิม 28 บาท โดยเรายังยึดสมมติฐานราคายางพาราเฉลี่ยปี 2555 ที่ 112 บาท ต่อ กก.(ยางแท่ง 120 บาท ต่อ กก.)

By  Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »