Showing posts with label PTTGC. Show all posts
Showing posts with label PTTGC. Show all posts

Wednesday, April 25, 2012

Stock Focus,PTTGC

PTTGC

กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี

เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เป็น Bottom ของปี เริ่มเห็นทิศทางของสเปรด เม็ดพลาสติก PE ดีขึ้นในเดือน เม.ย. โดยยืนเหนือ 400 เหรียญฯ ได้ LLDPE น่าจะมีสเปรดดีขึ้น QoQ มากที่สุด จาก 290 เป็น 419 เหรียญฯ ต่อตัน แม้ MEG สเปรดไตรมาส 2/55 อ่อนแอลงจาก 424 เหรียญฯ เหลือ 248 เหรียญฯ เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/55 มีแนวโน้มแตะ 11,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการ Restocking เริ่มดีขึ้นแล้ว แม้ในเดือน พ.ค.จะมีช่วง Golden Week ในจีน ซึ่งอาจสะดุดบ้าง แต่เชื่อว่าช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะมีกำไรรายไตรมาสดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/55 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 89 บาท



คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 8,512 ล้านบาท +109% QoQ แต่ลดลง 24% YoY โดยในไตรมาสนี้สายโอเลฟินส์ ที่เป็นส่วน HDPE, LDPE, LLDPE มีสเปรดที่ต่ำมาก (ลบจากนาฟทา ซึ่งสูงเฉลี่ยราว 1,050 เหรียญฯ ต่อตัน) ซึ่งคิดเป็นสเปรดที่ 380, 368, และ 290 เหรียญฯ ต่อตันตามลำดับ ทั้งนี้เพราะราคาเอทีลีนและนาฟทาสูงในไตรมาส 1/55 แต่มีตัวช่วยคือ MEG spread ค่อนข้างดีอยู่สูงราว 424 เหรียญฯ ต่อตัน ในขณะที่สเปรดทางสายอะโรเมติกส์ พาราไซลีนอยู่ในเกณฑ์ดีประมาณ 590 เหรียญฯ ขณะที่เบนซีน และฟีนอลค่อนข้างต่ำ ส่วนค่าการกลั่นไตรมาสนี้อยู่ที่ 5.5 เหรียญฯ (รวม Stock Gain แล้ว) เทียบกับไตรมาส 1/54 อยู่สูงราว 7 เหรียญฯ กำไรในระดับดังกล่าวถือว่าน่าจะเป็นกำไรที่ต่ำสุดแล้วของปี นอกจากนี้ไตรมาส 1/55 มี Shutdown โรงงานบางส่วนไป ในไตรมาสนี้เราคาดว่ามีกำไรสต๊อกน้ำมันและปิโตรเคมีรวมราว 2,500 ล้านบาท (เรารวมไว้ในต้นทุนขาย) และคาดว่ามีส่วนกำไร Hedging และกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเล็กน้อย ในระดับ 100-200 ล้านบาทเท่านั้น

คาดการณ์กำไรกลับมาดีขึ้นจากสเปรด PE ดีขึ้นในไตรมาส 2/55: เราเริ่มเห็นสเปรดของโอเลฟินส์ปรับตัวดีขึ้นในเดือน เม.ย. มีแนวโน้มการทำกำไรไตรมาส 2/55 ในระดับ 11,000 ล้านบาท เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2555 ของ PTTGC เท่ากับ 40,000 ล้านบาท ยังเชื่อว่าบริษัททำได้ถึงประมาณการ เนื่องจาก 2H55 เราคาดหวังกำไรต่อไตรมาสราว 10,000 ล้านบาท

งบลงทุนที่เตรียมไว้ในปี 2555 คาดว่าในแต่ละปีมี Maintenance CAPEX ที่ราว 200 ล้านเหรียญฯ หรือราว 6,000 ล้านบาท เป็นขั้นต่ำ จากแผนการลงทุน CAPEX 5 ปีรวมใช้เงินราว 40,000 ล้านบาท แต่หากปี 2555 มีดีลที่จะซื้อกิจการเพิ่มเพื่อบรรลุการเข้าซื้อกิจการ Perstorp ให้เรียบร้อยอาจต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท

แนะนำซื้อต่อไปราคาเหมาะสม 89 บาท: เรามองว่าในปี 2555 นี้ ยังเป็นปีที่สเปรดของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้นน้ำมีแนวโน้มดี ซัพพลายใหม่ออกมาไม่มาก ไม่มีความกดดันมากเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ไตรมาส 1/55 ผลิตภัณฑ์เด่นคือ MEG และ พาราไซลีน ส่วนไตรมาส 2/55 ผลิตภัณฑ์เด่นคาดว่าจะเป็นส่วนของ PE ทั้ง 3 ชนิด ซึ่งหากดีขึ้นเพราะส่วนนี้จะมีนัยยะอย่างมากต่อรายได้และกำไร PTTGC
Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Stock Focus,KH,PTTGC

KH, AMATA, PTTGC, PTT, KBANK

ปรับพอร์ต แต่ยัง Selective Buy หากปรับขึ้นทะลุ 1,200 จุด

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเด่นสวนตลาดต่างประเทศ แต่อย่างไรก็เป็นการปรับเปลี่ยนหมุนพอร์ตไป เราเชื่อว่า SET Index ที่ 1150 เป็นการสร้างระดับต่ำสุดของปีไปแล้ว SET Index ค่อนข้างแข็งแกร่ง ในรอบนี้อาจไม่หลุด 1180จับตาปัจจัยบวก 5 ปัจจัยจะเป็นตัวช่วยหนุน SET Index ในรอบถัดไป ในไตรมาส 3/55 ได้แก่
1) Fund flow ที่ไหลเข้าสู่ Equities จำนวน 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯหลังจากโครงการ Operation twist หมดอายุลงในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
2) การเพิ่มน้ำหนักของหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งจะมีการประกาศในช่วงวันที่ 15 พ.ค. และเริ่มใช้จริงวันที่ 30 พ.ค.
3) การเข้ามามีบทบาทของกองทุน European Stability Mechanism (ESM) ในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป
4) Money market financial reform ของประเทศสหรัฐฯซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเงินจำนวนมหาศาลและไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นได้บางส่วน
5) ผลกระทบเชิงบวกจากการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
• Recommended Sector ได้แก่ ICT, ENERGY ส่วน BANK จะเป็น Market performer
• Core Holding แห่งปียังชอบ JAS, INTUCH, PTT
• วันนี้ SCC, PTTEP ประกาศงบวันนี้ SCC งบไตรมาส 1/55 ไม่สดใส หากหุ้นปรับตัวลงเป็นโอกาสการซื้อ เนื่องจากสเปรดของ PE เห็นแล้วว่าเริ่มดีขึ้นในเดือน เม.ย.55 แต่คาดกำไรสุทธิของ PTTEP ในไตรมาส 1/55 และ 2/55 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขั้นต่ำคือ 15,000 ล้านบาทต่อไตรมาส

ปัจจัยวันนี้
(+)PTTGC: คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 8,512 ล้านบาท +109% QoQ แต่ลดลง 24% YoY โดยในไตรมาสนี้สายโอเลฟินส์ ที่เป็นส่วน HDPE, LDPE, LLDPE มีสเปรดที่ไม่ดี ต่ำกว่า 400 เหรียญฯ ต่ำมากเพราะราคาเอทีลีนและนาฟทาสูง ซึ่งเราคงเห็นภาพสะท้อนจากการประกาศงบการเงินของ SCC ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ทำได้ดีคือ MEG ซึ่ง สเปรดไตรมาส 1/55 สูงถึง 424 เหรียญฯ ต่อตัน ส่วนค่าการกลั่นไตรมาสนี้อยู่ที่ 5.5 เหรียญฯ (รวม Stock Gain แล้ว) เทียบกับไตรมาส 1/54 อยู่สูงราว 7 เหรียญฯ กำไรในระดับดังกล่าวถือว่าน่าจะเป็นกำไรที่ต่ำสุดแล้วของปี นอกจากนี้ไตรมาส 1/55 มี Shutdown โรงงานบางส่วนไป ส่วนในไตรมาส 2/55 เราเริ่มเห็นสเปรดของโอเลฟินส์ปรับตัวดีขึ้นในเดือน เม.ย. มีแนวโน้มการทำกำไรไตรมาส 2/55 ในระดับ 11,000 ล้านบาท เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2555 ของ PTTGC เท่ากับ 40,000 ล้านบาท ยังเชื่อว่าบริษัททำได้ถึงประมาณการ เนื่องจาก 2H55 เราคาดหวังกำไรต่อไตรมาสราว 10,000 ล้านบาท แนะนำซื้อต่อไปราคาเหมาะสม 89 บาท
(+)KH: ปี 2555 คาดเป็นปีทองแห่งการเติบโต เพราะมีแรงหนุนหลักจากการที่ประกันสังคมปรับรูปแบบการจ่ายเงินผู้ป่วยในจากเดิมเหมาจ่ายมาเป็นจ่ายตามความรุนแรงของโรค ทำให้ค่ารักษาเฉลี่ยและจำนวนผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ โดยจะเริ่มเห็นผลบวกชัดเจนนี้ตั้งแต่ไตรมาส 1/55 ซึ่งคาดทำสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสแตะ 205 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 2555 อยู่ที่ 9.40 บาท เรามีแนวโน้มปรับประมาณการราคาเป้าหมายของ BGH, BH เพิ่มขึ้นด้วย
Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Tuesday, March 20, 2012

Stock Focus,PTTGC,20.Mar.2012., 14.30


Our greatest glory is not in never falling, but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)

ซัพพลายปีนี้ผ่อนคลายไม่น่ากังวล ว่ากันใหม่ปีหน้า

เราสำรวจสเปรดปิโตรเคมี YTD แล้วพบว่าสเปรดปิโตรเคมีต้นน้ำของทั้งสายโอเลฟินส์ และสายอะโรเมติกส์ ปรับตัวดีขึ้นมาก น่าจะส่งผลกระทบทำให้กำไรสุทธิงวด 1H55 ดีมาก โดยส่วนที่โดดเด่นคือ เอทีลีน MEG และพาราไซลีน เชื่อว่าผลิตภัณฑ์หลักที่จะผลักดันให้กำไรสุทธิในปี 2555 ของ PTTGC เติบโตขึ้นจะมีอิทธิพลจาก MEG, และพาราไซลีน มากที่สุด และยังคงแนะนำซื้อต่อไป เนื่องจากเป็นกิจการที่เพิ่งทำการควบรวม เรามีข้อมูลเฉพาะงบเสมือนของ PTTGC จากการควบรวมของ PTTCH และPTTAR ดังนั้นเราจึงยังไม่สามารถทำ DCF ได้ เราใช้ราคาเหมาะสมอิงตามค่า PER 10เท่าในปี 2555 ได้เป้าหมาย 89 บาท

􀂃 กำไรสุทธิในไตรมาส 4/54 เท่ากับ 4,074 ล้านบาท คิดเป็น EPS เท่ากับ 0.91 บาท: -34% QoQ และ -38% YoY ฝั่งโรงกลั่น ค่า Market GRM ปรับตัวลดลงไม่ มากอยู่ ที่ 6.28 เหรียญฯต่อบาร์เรล (Market GRM ปี 2554 อยู่ที่ 6.37 เหรียญฯต่อบาร์เรล) โดย ถึงแม้ว่า ค่าการกลั่นของ น้ำมันเบนซินจะปรับตัวลดลงมากในไตรมาส 4/54 แต่ค่าการกลั่นน้ำมันเตาได้ปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าของญี่ปุ่นที่ เพิ่มขึ้น สำหรับ Hedging Loss และ Inventory Loss ในไตรมาสนี้อยู่ที่ -2.1 เหรียญฯต่อบาร์เรล และฝั่งอะโรเมติกส์ได้รับผลกระทบจาก สเปรดพาราไซลีนปรับตัวลดลงจาก 638 เหรียญฯต่อตันมาอยู่ที่ 531 เหรียญฯต่อตัน ส่วนสเปรดเบนซินปรับตัวลดลงจาก 165 เหรียญฯต่อตันมาอยู่ที่ 49 เหรียญฯต่อตัน สำหรับในสายโอเลฟินส์ถึงแม้สเปรดจะปรับตัวลดลงไม่มากแต่กำลังการผลิตลดลงเนื่องจากในช่วงน้ำท่วมความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ปรับตัวลดลงทำให้มีการส่งก๊าซธรรมชาติเข้าโรงแยกก๊าซลดลง รวมถึง Unplanned shutdown ของ I4-2 ประมาณ 2 สัปดาห์

􀂃 กำไรสุทธิงวดปี 2554 +84%YoY: PTTGC มียอดขายรวม 500,305 ล้านบาท +33% YoY และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 30,033 ล้านบาท EPS เท่ากับ 6.66 บาทต่อหุ้น +84% YoY โดยภาพรวมส่วนที่ดีขึ้นมาจากธุรกิจปิโตรเคมี เนื่องจากกำลังการผลิตสายโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2553 และมีการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่เต็มปี ส่วนของสเปรดผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างโดดเด่นคือ MEG ซึ่งสเปรดสูงถึง 450 เหรียญฯ ต่อตัน และพาราไซลีนที่สเปรดสูงเฉลี่ยที่ 525 เหรียญฯ ต่อตัน

􀂃 แนวโน้มธุรกิจในปี 2555: เราคาดการณ์กำไรสุทธิของ PTTGC ในปี 2554 เท่ากับ 40,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY จากสเปรดปิโตรในช่วงต้นน้ำที่ค่อนข้างแข็งแกร่งโดยในสายโอเลฟินส์ สเปรดของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นคือเอทีลีนและ MEG ส่วนฝั่งอะโรเมติกส์จะมีพาราไซลีนที่เป็นดาวเด่น คาดว่าสเปรดทรงตัวในระดับที่ดีใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ที่ 525 เหรียญฯ ต่อตัน ส่วนค่าการกลั่นโดยเฉลี่ยในปี 2554 นี้ คาดว่าอยู่ที่ 7 เหรียญฯต่อบาร์เรล โดยเชื่อว่ามาจาก EURO IV ซึ่งจะช่วยผลักดันค่าการกลั่นได้ประมาณ 1.2-1.4 เหรียญฯต่อบาร์เรล เทียบกับปีก่อนที่ค่าการกลั่นรวมอยู่ราว 6.37 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล

BY  Vajiralux

Read more »

Stock Focus,PTT,PTTGC,IVL ,SIRI,TCAP,20.Mar.2012.,9.30

 
 

Our greatest glory is not in never falling, but in rising every time we fall.
เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก


PTT, PTTGC, IVL, SIRI, TCAP

พลังงานอยู่ในจุดที่ซื้อได้

ตลาดหุ้นคาดว่ายังรับอานิสสงค์จาก DXYO อ่อนค่าลงมาต่ำกว่า 80 จุด อีกทั้ง VIX Index อยู่ในโซนต่ำเพียง 14-15 แสดงว่าความกลัวการลงทุนยังไม่พุ่งขึ้น และมั่นใจว่ารับมือกับทุกสถานการณ์ได้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะฟื้นเพื่อพยายามยืน 1,200 จุดให้ได้ รอบนี้คาดว่าอาศัยพลังงาน-ปิโตรเคมีผลักดันขึ้นไป อีกทั้งหุ้นกลุ่มดังกล่าวของไทยถือเป็น Blue Chip มีแบรนด์แข็งแกร่ง และราคายังคงอ่อนแอต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น เราแนะนำซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในวันนี้ หุ้นมีประเด็นในช่วงนี้น่าจะเป็นกลุ่มสื่อสารที่ต้องติดตามการออกร่างแผนแม่บทโทรคมนาคม ในช่วง 21 มี.ค.นี้ อีกทั้งในวันที่ 21 เช่นกัน ติดตามผลการประชุม กนง. คาดการณ์คงดอกเบี้ยไว้ ซึ่งวานนี้ ธนาคารใหญ่ก็ได้รับผลบวกไปแล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะเป็นโอกาสของธนาคารรองประเภทเช่าซื้อ เช่น TCAP ราคาหุ้นถูก พื้นฐานดี Growth กลับมาใหม่ในปีนี้ หลังจากปีก่อนกำไรนิ่งไปหลังควบรวม

ปัจจัย

(+)กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี: เลือกตามคาร์แรคเตอร์ของนักลงทุน คือถ้ากล้าได้กล้าเสีย พอรับความเสี่ยงได้ เลือก IVL, PTTGC, TOP, IRPC ได้ ส่วนถ้าเป็นนักลงทุนที่ Conservative ให้เลือก PTT ตลาดขึ้นหรือลง PTT ยัง Undervalued ในระดับที่ให้ความหวังต่อการฟื้นตัวในระยะข้างหน้าได้ ส่วนพวกรักแล้วรอได้ ให้เลือก BANPU ซึ่งราคาหุ้นของ BANPU มองในเชิง PER ถือว่าถูกเป็นประวัติการณ์ ส่วนใหญ่หลายปีที่ผ่านมาจะเป็นหุ้น Premium Grade ซื้อขายเหนือ PER 10 เท่าตลอดยกเว้นปีนี้ ที่แสดงธาตุแท้ของการเป็น Commodity คือซื้อขายอย่างไร PER ก็ไม่เกิน 10 เท่า แต่ไม่มีใครกล้าสบประมาท BANPU เพราะการขยายตัวของธุรกิจเกิดขึ้นและสร้างความน่าสนใจได้ทุกปี

(-)ตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบหลังจากธนาคารกลางกรีซคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงหดตัว4.5 % ในปี 2555 อัตราว่างงานจะยังคงอยู่สูงกว่า 19% อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่ยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสุงสุดในรอบ 5 ปี ตามรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 28 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2550 

(-)น้ำมัน: ติดตามความคืบหน้าของการเปิดการเจรจาระหว่าง 6 ประเทศแกนนำหลักของโลกและอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านว่าการเจรจาจะมีขึ้นเมื่อใดและสถานที่ใด รวมทั้งอิหร่านจะยอมให้สำนักงานปรมาณูสากลเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ การประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปในวันที่ 23 มี.ค. นี้ ที่จะหารือในเรื่องมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่าน หลังผู้นำเข้าเอเชียเรียกร้องให้ยกเว้นการคว่ำบาตรต่อบริษัทประกันภัยที่ทำประกันน้ำมันดิบของอิหร่าน

(+)NOBLE จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2554 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท XD 4 พ.ค.55

 ( + )  SIRI เตรียมโชว์ต่างประเทศ :  นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นของบริษัทมากขึ้น หลังจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม เพิ่มขึ้นมากเป็น 500 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีแผนโรดโชว์ มากขึ้น ล่าสุดมีโบรกเกอร์ติดต่อให้ไปโรดโชว์ที่ยุโรปและอเมริกา  สำหรับการจัดงานบริษัททดทะเบียนพบผู้ลงทุนเมื่อวาน (19 มี..) ผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท จากยอด Backlog 3.5 หมื่นล้านบาท  โดยจะในไตรมาส 4/55 จะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการจะส่งผลให้ในไตรมาส 4/55 จะทำสถิติสูงสุดทั้งในแง่กำไรและรายได้   บริษัทคาดปีนี้อัตรากำไรสุทธิจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-11% อยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราการทำกำไรขั้นต้นจะปรับลดลง หรืออยู่ที่ระดับ 32% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 33-35% เป็นผลจากค่าแรงขั้นต่ำที่จะเพิ่มเป็น 300 บาทต่อวันในเดือน เม..นี้ และราคาวัสดุก่อสร้างที่เริ่มแพงขึ้นหลังน้ำท่วม 3-5% ซึ่งคาดตลอดทั้งปีราคาวัสดุก่อสร้างจะแพงขึ้น 7-10%  ดังนั้น เบื้องต้นเราประเมิน SIRI จะมีกำไรในปี 2555 เท่ากับ 2,800 ล้านบาท หรือ คิดเป็น กำไรต่อหุ้น ประมาณ 0.36 บาท

 BY  Vajiralux

Read more »

Monday, March 19, 2012

Stock Focus,SAT,CK,TICON,JAS,PTTGC,19.Mar.2012., 10.41



 
Every day may not be good,
but there is something good in every day.
ทุก ๆ วันอาจจะไม่ใช่วันที่ดี แต่มันก็มีสิ่งดี ๆ บางสิ่งเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน



SAT, CK, TICON, JAS, PTTGC

Trend Following

นอกเหนือจาก Fund Flow ที่กำลังเทเข้าตลาดหุ้น Emerging Market รวมถึงไทย (ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยไทยตั้งแต่ต้นปีรวม 2,035 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ +465% YTD) นักลงทุนอาจจะต้องพิจารณาว่ากลุ่มอุตสาหกรรมหรือหุ้นนั้นอยู่บน Mega Trends ที่กำลังมาหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่อาจจะการตัดสินใจซื้อ-ขายหุ้น เราเชื่อว่า Mega Trends ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเกิด Urbanization(การขยายหรือกระจายออกไปของสังคมเมือง) รวมถึงการได้ประโยชน์หากมีการเปิด AEC การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของคน จะสร้าง Mega Trends ได้ชัดในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม คาดว่าเริ่มที่ ICT, อาหาร, ค้าปลีก (ได้จากการเกิด Urbanization) ใน Emerging Market เป็นศูนย์กลางการเกิดสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าในบางครั้งจะมีการส่งสัญญาณในทางลบ เช่น การที่ประเทศจีนส่งสัญญาณเศรษฐกิจเติบโตไม่สูง จะเกิด Trend ภาพลบต่อหุ้นคอมมอดิตี้ (แต่ก็คาดว่าเป็นช่วงสั้น ถ้าไม่เผชิญปัญหาว่าราคาน้ำมันแพงขึ้นต่อเนื่องมากไป สักพักสเปรดก็อาจกลับมาดีขึ้นได้อีก) อย่างนี้อาจต้องหลบพลังงาน ปิโตรเคมี และโภคภัณฑ์ แต่หากวิเคราะห์แล้วสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียง Sentiment เช่นบอกกล่าวเล่าว่าวันนี้ทางการจะปรับราคาน้ำมันขึ้น ขึ้นราคา LPG แก๊สโซฮอล บางทีข่าวเหล่านั้นไม่มีนัยยะมากนักทำให้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยนไป การลงทุนจากนี้ต้องดู Mega Trends เช่นโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนมาแรง จะทำให้กิจการของกลุ่มโทรศัพท์มือถือเติบโตดีขึ้นอีกระลอกใหญ่ หรือ Trend TV ดาวเทียมเกิดแน่ ต้องพิจารณาว่า MCOT เสียประโยชน์ RS, GRAMMY, WORK ได้ประโยชน์ เป็นต้น สัปดาห์นี้นำเสนอภาพ Trend ของ Broadband Business หุ้นที่เกี่ยวจะมี JAS, TRUE เราแนะนำซื้อ JAS และเก็งกำไร TRUE นอกจากนี้เรายังเห็นว่าอาจจะมี Mega Trends ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งมองว่า Trend ใหญ่เกิดบนพลังงานต้นน้ำ เปลี่ยนจาก Conventional ไปเป็น Unconventional จะทำให้เกิด Earnings ใหม่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังจับจ้องเพียงการเกิด Green Energy ซึ่ง Green Energy นั้นเรายังวัดความสำเร็จอย่าง Sizeable ได้ค่อนข้างยากหลังจากเปิดโครงการใหม่


(+)น้ำมัน: ราคาน้ำมันทะยานขึ้น ตามการแข็งค่าของยูโรเทียบดอลลาร์ ซึ่งการร่วงลงของดอลลาร์มักจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากจะทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่น ๆ ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดเกิดปฏิกริยาบวกต่อข่าวที่ว่าสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับอังกฤษในการระบายน้ำมันจากคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งได้มีการออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกได้ส่งผกระทบต่ออุปทานน้ำมันในภูมิภาคดังกล่าว

(+)SAT: มาทั้งแนวหุ้น Turnaround และหุ้น Mega Trends จากการที่อุตสาหกรรมรถยนต์ปี 2555 คาดว่าจะฟื้นตัวแรง เป้าผลิตรถยนต์ปีนี้ 2.1 ล้านคัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ เติบโตจากปีก่อนถึง 44%  การย้ายฐานของค่ายรถยนต์ต่างๆ จะทำให้ยอดผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นเป็น 2.7 ล้านคัน ในปี 2558  ผู้บริหาร SAT ตั้งเป้ายอดขายปี 2555 โตมากกว่า 35%  แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ SAT อาจได้ออร์เดอร์รถอีโคคาร์ 4 ค่ายยักษ์ ทั้ง NISSAN-HONDA-MITSUBISHI-SUZUKI และ ยังได้แรงหนุนจาก Kubota ย้ายฐานเข้ามาผลิตในไทยมากขึ้น  เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ 870 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 2.56 บาท) พุ่งขึ้น 113% ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งยอดขายและกำไร  ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาแรง แนะนำรอ จังหวะซื้อในช่วงอ่อนตัว ประเมินราคาเป้าหมาย 30 บาท 

(+)JAS:  เมื่อวันที่18 มี.ค.55 กระทรวงศึกษาธิการได้หารือถึงแนวทางการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 4 แสนคนทั่วประเทศ กำหนดใช้งบประมาณ4,000 ล้านบาท  เห็นชอบให้ทันแจกในวันเปิดภาคเรียนที่ 2/2555  คาดว่าทั้งโครงการจะแจกรวมประมาณ 860,000 เครื่องทั่วประเทศ ปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนกระตุ้นทำให้เกิดดีมานด์ของ Broadband เพื่อติดตั้งในบ้านในเวลาต่อมา สร้างผลบวกที่ดีต่อ JAS และ TRUE

(+)PTTGC: ซัพพลายใหม่ของปิโตรเคมีต้นน้ำในปี 2555 ยังไม่น่าวิตกกังวล เพราะเป็นปีที่ซัพพลายเข้ามาน้อยกว่าสองปีที่ผ่านมาทั้งสายโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ เราแนะนำซื้อ PTTGC เป็น Trend Following ด้วยอีกทั้งราคาหุ้นถูกเกินไป ราคาเป้าหมายปี 2555 89 บาท

BY  Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Tuesday, February 7, 2012

Stock Focus,NEWS ,PTTGC,IVL, 7,FEB,2005 15.2

กองทุนต่างชาติ หลายกองสนใจ หุ้น PTTGC , IVL ก็ลองติดตามข่าวเพิ่มเติม หรือ ดู กราฟ เอาครับ

ในวันนี้ บริษัท IVL ได้มีการให้ข่าวว่า จะทำการเข้าซื้อบริษัท Old World Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิต Ethylene Oxide กำลังการผลิต 435,000 ตันต่อปี (ซึ่งมากกว่า PTTGC ที่ 395,000 ตันต่อปี) โดย Ethylene Oxide จะใช้ในการผลิต MEG โดยในข่าวเขียนว่าจะต้องใช้ลงทุนรวม 795 ล้านเหรียญฯ หรือ 23,500 ล้านบาท โดยเราเข้าไปดู Cash Flow ของบริษัทในช่วง 9M54 บริษัทมีเงินสดทั้งหมด 450 ล้านบาท ทำให้เราคาดว่า เงินลงทุนใน Project นี้ อาจไม่พอ เรายังไม่ทราบแหล่งที่มาของเงินลงทุน แต่คาดว่าอาจจะมีการเพิ่มทุนบางส่วน

เพิ่มเติมจากคุณวชิราลักษณ์
IVLจากการซื้อ EO ในสหรัฐ ถือว่าเป็นราคาที่ไม่ได่ถูก จน under value หรือมี discount คาด IVL เพิ่มทุน แน่ แต่ไม่มาก Fair Price ที่ซื้่อ เทียบเท่า ซื้อหุ้น TOP ที่ 64 ซื้อ ESSO ที 19 บาท จึงคิดว่า่ nuetral

Read more »