Showing posts with label PTT. Show all posts
Showing posts with label PTT. Show all posts

Wednesday, May 23, 2012

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT

ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 ที่ 37,386 ล้านบาท

PTT ประกาศกำไรสุทธิในที่ประชุมนักวิเคราะห์ ที่ 37,386 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ คาดไว้ รายได้รวมโตขึ้น 16% QoQ และ 28% YoY ที่ 6.92 แสนล้านบาท EBITDA อยู่ที่ 54,964 ล้านบาท +66%QoQ และ +10% YoY ส่วนมากมาจาก ปตท.สผ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/55 อาจไม่ดีเท่าไตรมาสที่ผ่านมา จากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงที่จะบันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลประกอบการจะผันผวนน้อยกว่ากลุ่มบริษัทลูก อ่านเพิ่ม….>


แนวรับ 298-313       แนวต้าน  325-338


Read more »

Friday, May 4, 2012

Stock Focus,TCAP,PTT,



คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐาน กรอบ 1,215-1,228 จุด

 

แนวรับคืนอีกรอบ มีแนวต้าน 1,250-1,260 จุด ณ ระดับราคาปิดเมื่อวาน 1,240 จุด นักลงทุนโดยรวมคาดมีกำไรพอควรแล้ว ต้องระมัดระวังตลาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร และ Domestic Plays เรายังมองว่าร้อนแรงเกินไปที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยกลุ่มค้าปลีก นักวิเคราะห์เรายังเห็นว่าน่าจะรองบการเงินไตรมาส 1/55 ออกมาก่อน และรอฟังนโยบายของผู้บริหาร แล้วอาจพิจารณาการปรับขึ้น Fair Value หุ้นที่ชื่นชอบที่สุดของค้าปลีกยังเป็น ROBINS เป้าหมาย 63 บาท BIGC เป้าหมาย 202 บาท นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เริ่มมองทางให้ขายทำกำไร ส่วน CPALL ระยะสั้นปรับตัวขึ้นเร็วเกินไป การเข้าซื้อระลอกใหม่เน้นไปที่กลุ่มปิโตรเคมี และพลังงานที่ Laggard มากเป็นหลัก ได้แก่ PTTGC, IVL, BANPU รอซื้อ PTT เมื่ออ่อนตัวระดับ 345-355 บาท ส่วน JAS ราคาขึ้นมาเข้าใกล้เป้าหมาย 3.50-3.72 บาท แนะนำรอขายทำกำไรบางส่วนที่เกิน 3.30 บาทขึ้นไป รอซื้อกลับที่ 3.00-3.10 บาท เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นไม่เผื่อความผิดหวังที่อาจเกิดมีขึ้นได้สองเรื่องคือ 1.งบไตรมาส 1/55 หากไม่ถึง 400 ล้านบาท จะทำให้ Sentiment เสีย 2.บริษัทมีนโยบายขายหุ้นที่ทำ Treasury Stock ออกมาประมาณ 100 ล้านหุ้นเมื่อถึงกำหนด (คือในช่วงนี้) ตลาดต่างประเทศวันนี้น่าจะพักฐานเช่นกัน เหตุสำคัญคือต้องระมัดระวังความผันผวนของราคาน้ำมัน จากดีมานด์ที่เริ่มอ่อนแอ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เห็นยังไม่แข็งแกร่ง ในขณะที่ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินในวันข้างหน้า นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย อีกทั้งเรากังวล DXYO อาจพลิกกลับขึ้นสวนทางกับค่าเงินอียูที่อ่อนแรง

 TCAP: ปรับราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม 34 บาท เป็น 37 บาท อิง PBV 1.29 เท่า โดยคาดการณ์ Div. Yield ปี 2555 เท่ากับ 4.1% p.a. แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2555 ของ TCAP ยังไม่สะท้อนผลบวกจากการรวมกิจการกับ SCIB อย่างเต็มที่ แต่แนวโน้มกำไรปี 2556 จะเติบโตได้ 15% YoY จากการทำ Cross Selling ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย TCAP มีภาระกิจหลักสำคัญคือ 1.รักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ของธุรกิจ HP ที่มีแชร์กว่า 20% ให้ได้ ที่สองคือ BAY 2.จะเน้น Housing Loans มากขึ้น ต่อยอดจากฐานที่ SCIB ทำไว้ 3.ขยาย Corporate Loans 4.ขยายฐานสินเชื่อ SME วงเงินสินเชื่อต่ำกว่า 10 ล้านบาท 5.เพิ่ม Fee Incomes 6.ลดค่าใช้จ่ายบริหาร ให้เป็น 0% growth เราคาด TCAP มี Cost to Income ที่ 59% (ผบห ตั้งไว้ 55%) Credit Cost เราคาดว่าตั้ง provision 45 bps ( ผบห คาดตั้ง 20-50 bps)

 PTT: Preview เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 38.66 พันล้านบาท (Recorded High) เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 1/54 ที่ 34.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเดิม ทั้งนี้คาดเป็นกำไรจากการดำเนินงานของ PTT เอง (กำไรหักส่วนของdividend รับจาก บ.ลูก) เท่ากับ 14.2 พันล้านบาท (ใกล้เคียงกับ 1Q54 ที่ 14.16 พันล้านบาท) บวกด้วยกำไรจาก บ.ในเครือ นำโดย PTTEP contribute มากที่สุด กว่า 12 พันล้านบาท โรงกลั่น TOP, BCP จะมีกำไรดีสุดในไตรมาส 1/55

PTTGC กำไรปานกลาง แต่คาดว่าจะ contribute มากขึ้นในไตรมาสถัดไป ส่วน IRPC กำไรไตรมาส 1/55 ยังน่าผิดหวัง รวมด้วยไตรมาสนี้คาดมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3.1 พันล้านบาท และกำไร stock gain อีก 2.6 พันล้านบาท ราคาหุ้น PTT ยัง Laggard เมื่อเทียบกับกำไรไตรมาส 1/55 ที่ทำได้ดี และเทียบกับ SET ปี 2555 คาดกำไรสุทธิ 111 พันล้านบาท (ยังไม่รวมถ้าต้อง write off โครงการอียิปต์ ที่ยังเหลือต้องทำอีก 7.5 พันล้านบาทปีนี้ แต่ไม่ใช่ในไตรมาส 1/55) เราแนะนำซื้อต่อไป ราคาเป้าหมาย 394 บาท

Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Monday, April 23, 2012

Stock Focus,24,PTT,PTTEP.Apr.2012.,


เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,



Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.
เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

TOP, BCP, IVL, PTTEP, JAS

มองทางลดพอร์ตและ Selective Buy

เราเห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นเมื่อเข้าใกล้โซน 1,200 จุด อาจจะไปต่อไม่ไหวเนื่องจากปัจจัยบวกที่จะหนุนต่อเริ่มลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มหุ้น Undervalued อีกมาก ในกลุ่มปิโตรเลียมต้นน้ำ เช่น PTTEP, PTT, TOP และเรายังมองความหวังว่าธุรกิจปิโตรเคมี ยางพาราอาจมีโอกาสฟื้นสเปรดได้ในช่วง 2H55 ในขณะที่หุ้นอยู่ในเกณฑ์ราคาต่ำ เช่น PTTGC, IVL, STA อย่างไรก็ตาม แม้เราจะชื่นชอบกลุ่ม Commerce และธนาคารพาณิชย์มาโดยตลอด แต่ไม่แนะนำลุยซื้อต่อ เนื่องจาก PER สูงมาก บางทีจะสูงเกิน Growth ที่บริษัทจะทำได้ เราแนะนำให้รอซื้อกลุ่มเหล่านี้เมื่อราคาอ่อนตัว เช่น HMPRO, CPALL, BIGC กลุ่มธนาคารพาณิขย์ รอซื้ออ่อนตัวใน SCB, KBANK, TCAP เป็นต้น
  • ประชุม รมว.คลังจี-20 หนุนเพิ่มทุน IMF กว่า 430,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศชั้นนำจี-20 ออกแถลงการณ์หลังการประชุมเป็นเวลา 2 วัน (19-20 เม.ย.55) ที่กรุงวอชิงตันว่า รมว.คลังจี-20 แสดงความมุ่งมั่นแข็งแกร่งที่จะเพิ่มทุนทรัพย์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กว่า 4.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรัสเซียจะสมทบทุน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ การสนับสนุนจากรัสเซีย//จีน และบราซิลมีความสำคัญต่อการเพิ่มขนาดกองทุนของไอเอ็มเอฟขึ้น 2 เท่า ขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นประกาศแล้วว่าจะสมทบทุน 3 แสน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ที่ประชุมยอมรับว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญได้เริ่มลดน้อยลง แต่คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสำหรับปี 2555 จะยังคงอยู่ในระดับปานกลาง ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพการเงินโลก และเฝ้าระวังราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง
  • ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือน เม.ย. และผลประกอบการของสหรัฐฯดีกว่าที่คาดไว้ ความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมันดิบได้แรงหนุนหลังจากที่เยอรมนีซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซนเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 10 เดือนในเดือน เม.ย. ซึ่งช่วยชดเชยความวิตกเกี่ยวกับปัญหานี้ยุโรปและเป็นแรงหนุนยูโร นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการจากบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งรวมถึงเจเนอรัล อิเล็คทริค (จีอี), ไมโครซอฟท์ และแมคโดนัลด์สูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันดิบ ปัจจัยที่ดีขึ้นดังกล่าว เราเชื่อว่าอาจจะหนุนราคาหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันดิบ เช่น PTTEP และ PTT มากกว่า BANPU 
  • ราคาถ่านหินปรับตัวลดลงต่อเนื่อง: ราคา BJI ที่ประกาศล่าสุด ณ 19 เม.ย.2555  เท่ากับ 103.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน (-1.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน) เป็นการลดลงต่อเนื่องนับจากต้นปีที่อยู่ที่ราว 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สะท้อนความอ่อนแอของดีมานด์โลก โดยราคาถ่านหินเริ่มไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันมากนัก ยิ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อ BANPU เพราะต้นทุนเป็นน้ำมันดีเซลบางส่วน ซึ่งราคาปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ แม้เรามองปัจจัยพื้นฐานของ BANPU ระยะยาวว่าดี และคาดว่ายังมี Fair Value ระดับ 725 บาท แต่ระยะสั้น ใน 1H55 เรากลับยังเห็นความสำคัญของหุ้นในกลุ่ม PTT ที่เป็นต้นน้ำมากกว่าเช่น PTTEP, PTT รวมไปถึง TOP, PTTGC, BCP ที่ Undervalued มากกว่า ราคาถ่านหินลดลง ให้ประโยชน์ในทางอ้อมต่อโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เช่น GLOW
  • การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน อาจให้ผลกระทบทางลบเมื่อปฏิบัติใช้ในปี 2556: นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีแรงงาน แถลงยืนยันว่า จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทใน 70 จังหวัดที่เหลือ วันที่ 1 ม.ค. 2556 ตามกำหนดโดยจะไม่เลื่อนออกไปเป็นปี 2558 ตามที่สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอหลังจากการหารือกับภาคเอกชนไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ปัจจุบันจะยังมีภาคธุรกิจเสนอให้รัฐบาลเลื่อนขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอีก 70 จังหวัดออกไปเป็นปี 2558 เพราะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 40% จนอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระได้ และอาจทำให้ส่งผลกระทบทางลบแทนที่ เพราะคาดว่าเมื่อปฏิบัติใช้จะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น (ที่มา : ไทยรัฐ 23 เม.ย.  55)
  • Vajiralux Sanglerdsillapachai

    Read more »

    Tuesday, April 10, 2012

    Stock Focus,PTTEP,10.Apr.2012., 17.00

    บริษัท ปตท.สำรวจและผลิต (มหาชน) (PTTEP)

    คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 ดีต่อเนื่อง 1.5 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 1/55 ปริมาณขายก๊าซธรรมชาติยังทรงตัวระดับ 255,000 บาร์เรลต่อวัน มีการผลิตออกจากแหล่งผลิตใหม่ ในขณะเดียวกันก็มีการลดกำลังการผลิตของ แหล่งผลิตเดิม เนื่องจากมีช่วงเวลาในการซ่อมบำรุง แต่ส่วนที่โดดเด่นมากสำหรับไตรมาสนี้ คือราคาขายก๊าซธรรมชาติทำสถิติสูงสุดขึ้นมาถึง 7 เหรียญฯ ต่อล้านบีทียู และยังคงปรับตัวขึ้นต่อในไตรมาส 2/55 มาอยู่ราว 7.1 เหรียญฯ ต่อล้านบีทียูได้อีก ซึ่งสวนทางกับราคาก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ที่ราคาร่วงไปอยู่ราว 2.5-3.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นผลจากการมี Shale Gas มากในแหล่งสหรัฐฯ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับในประเทศไทย เราเชื่อว่า 2-3 ปีข้างหน้าเป็นช่วงที่กำไรของ PTTEP ยังเติบโต และกลยุทธ์การดำ เนินธุรกิจกำ ลังรุกคืบไปสู่การทำ Unconventional มากขึ้น เราจึงยังคงแนะนำซื้อ PTTEP ราคาเป้าหมาย 209 บาท
  • คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 15,235 ล้านบาท: +38.8% YoY และ +0.6% QoQ คาดการณ์กำลังการผลิตในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น 255,865 บาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่284,000 บาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบ แต่ที่ดีมากสำหรับไตรมาสนี้ คือราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซธรรมชาติ ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน เราคาดการณ์ค่าเฉลี่ยราคาก๊าซ ไตรมาสนี้ที่ 7 เหรียญฯ ต่อล้านบีทียู และคาดการณ์ราคาปิโตรเลียมเฉลี่ยเท่ากับ 64.58 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล +30.8% YoY หรือ +5.4% QoQ เป็นราคาที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์โดยเป็นราคาที่ดีกว่าในช่วงน้ำมันดิบมีค่าเฉลี่ยที่ 116 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/51 ราคาผลิตภัณฑ์ช่วงนั้นก็ยังสูงเพียง 54 เหรียญฯ เท่านั้น
  • ปริมาณการผลิตในปี 2555 คาดการณ์ไว้ 284,000 บาร์เรลต่อวัน: แม้ว่าในไตรมาส 1/55 จะมีการหยุดผลิตที่แหล่งอาทิตย์เหนือไปแล้ว 120 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน และมีหยุดซ่อมบำรุงในบางแหล่งผลิตเป็นระยะสัปดาห์ แต่เราเชื่อว่าแหล่งผลิตที่จะทำให้ปริมาณการผลิตของ PTTEP เพิ่มขึ้นมาได้จะมาจากแหล่ง KKD ในคานาดา ซึ่งยังคงเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่องนับจากสิ้นปี 2554 ผลิตได้ 15,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นได้เป็น 20,000 บาร์เรลต่อวัน แหล่งบงกชใต้ ที่เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นได้รวม 320 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน ในปี 2555 แหล่งเวียดนาม 16-1 ผลิตได้เพิ่มเป็น 32,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่ไตรมาส 4/54
  • ประเมินมูลค่าเหมาะสม 209 บาท: เราใช้สมมติฐานราคาน้ำมันปี 2555 ที่ 100 เหรียญฯ และค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 30.7 บาทต่อเหรียญ ฯ กำไรสุทธิปี 2555-2557 คาดว่าเพิ่มขึ้น 12%, 21% และ 13% YoY แสดงให้เห็นว่าสามปีข้างหน้านี้ PTTEP เข้าสูงGrowth Stage อีกครั้ง หลังจากกำไรย่ำฐานที่ไตรมาสละ 10,000 ล้านบาทติดต่อกัน 4-5 ปี (ยกเว้นปีที่มีอุบัติเหตุที่มอนทารา) เราเชื่อว่า PTTEP เป็นหุ้นที่เหมาะสมจะซื้อลงทุนรับกับกระแสที่บริษัทพลังงานทั่วโลกหันเหจากการทำธุรกิจดาวน์สตรีมไปสู่อัพสตรีม เรากำหนดราคาเป้าหมาย PTTEP ที่ 209 บาท (วิธี DCF ถึงปี 2562 ค่า WACC ที่ 7.5% Long-term Growth 1%)ธุรกิจ Conventional ที่ PTTEP ดำเนินการอยู่ยังให้ภาพรวมในการสร้าง EBITDA Margin ได้ราว 70% ทั้งนี้เราเชื่อว่าปี 2555 เป็นต้นไป PTTEP จะมีส่วนผสมของธุรกิจ Unconventional เข้ามาเพิ่ม ได้แก่ Oil Sands และ LNG ซึ่งในส่วนเหล่านี้ EBITDA Margin คงน้อยกว่าธุรกิจเดิมเป็น ธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างเช่นกรณีของ Oil Sands ก็จะมี EBITDA Margin ราว 35% แม้จะน้อยกว่าเดิมแต่ก็ยังมากกว่าธุรกิจที่ไม่ใช่ E&P ซึ่งมักมี IRR ต่ำกว่า 20% เป็นปกติ ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าแนวทางที่ PTTEP กำลังเดินทางหาธุรกิจใหม่ที่เป็น Unconventional มาเพิ่ม น่าจะเป็น Direction ที่ถูกต้องแล้ว แม้จะทำให้ EBITDA Margin ในอนาคตลดลง แต่จะทำให้ฐาน EBITDA และกำไรสุทธิใน Bottom Line เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่าง ExxonMobil ของสหรัฐฯ ก็พยายามขายเงินการลงทุนในธุรกิจดาวน์สตรีม เพื่อเตรียมเข้าอัพสตรีมเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่แนวโน้ม ของโลกธุรกิจ Unconventional ก้าวเข้ามากินสัดส่วนของ Conventional เพิ่มมากขึ้นเป็น 29% ในปี 2554 เราจึงมองว่าแนวโน้มธุรกิจพลังงาน ประเภท E&P กำลังก้าวจาก Conventional เข้าไป Unconventional และเกิดการบูมก่อนเห็นการบูมอย่างชัดเจนของ Renewable Energy
  • by วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย

    Read more »

    Tuesday, March 20, 2012

    Stock Focus,PTT,PTTGC,IVL ,SIRI,TCAP,20.Mar.2012.,9.30

     
     

    Our greatest glory is not in never falling, but in rising every time we fall.
    เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
    แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก


    PTT, PTTGC, IVL, SIRI, TCAP

    พลังงานอยู่ในจุดที่ซื้อได้

    ตลาดหุ้นคาดว่ายังรับอานิสสงค์จาก DXYO อ่อนค่าลงมาต่ำกว่า 80 จุด อีกทั้ง VIX Index อยู่ในโซนต่ำเพียง 14-15 แสดงว่าความกลัวการลงทุนยังไม่พุ่งขึ้น และมั่นใจว่ารับมือกับทุกสถานการณ์ได้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะฟื้นเพื่อพยายามยืน 1,200 จุดให้ได้ รอบนี้คาดว่าอาศัยพลังงาน-ปิโตรเคมีผลักดันขึ้นไป อีกทั้งหุ้นกลุ่มดังกล่าวของไทยถือเป็น Blue Chip มีแบรนด์แข็งแกร่ง และราคายังคงอ่อนแอต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น เราแนะนำซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในวันนี้ หุ้นมีประเด็นในช่วงนี้น่าจะเป็นกลุ่มสื่อสารที่ต้องติดตามการออกร่างแผนแม่บทโทรคมนาคม ในช่วง 21 มี.ค.นี้ อีกทั้งในวันที่ 21 เช่นกัน ติดตามผลการประชุม กนง. คาดการณ์คงดอกเบี้ยไว้ ซึ่งวานนี้ ธนาคารใหญ่ก็ได้รับผลบวกไปแล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะเป็นโอกาสของธนาคารรองประเภทเช่าซื้อ เช่น TCAP ราคาหุ้นถูก พื้นฐานดี Growth กลับมาใหม่ในปีนี้ หลังจากปีก่อนกำไรนิ่งไปหลังควบรวม

    ปัจจัย

    (+)กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี: เลือกตามคาร์แรคเตอร์ของนักลงทุน คือถ้ากล้าได้กล้าเสีย พอรับความเสี่ยงได้ เลือก IVL, PTTGC, TOP, IRPC ได้ ส่วนถ้าเป็นนักลงทุนที่ Conservative ให้เลือก PTT ตลาดขึ้นหรือลง PTT ยัง Undervalued ในระดับที่ให้ความหวังต่อการฟื้นตัวในระยะข้างหน้าได้ ส่วนพวกรักแล้วรอได้ ให้เลือก BANPU ซึ่งราคาหุ้นของ BANPU มองในเชิง PER ถือว่าถูกเป็นประวัติการณ์ ส่วนใหญ่หลายปีที่ผ่านมาจะเป็นหุ้น Premium Grade ซื้อขายเหนือ PER 10 เท่าตลอดยกเว้นปีนี้ ที่แสดงธาตุแท้ของการเป็น Commodity คือซื้อขายอย่างไร PER ก็ไม่เกิน 10 เท่า แต่ไม่มีใครกล้าสบประมาท BANPU เพราะการขยายตัวของธุรกิจเกิดขึ้นและสร้างความน่าสนใจได้ทุกปี

    (-)ตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบหลังจากธนาคารกลางกรีซคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงหดตัว4.5 % ในปี 2555 อัตราว่างงานจะยังคงอยู่สูงกว่า 19% อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่ยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสุงสุดในรอบ 5 ปี ตามรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 28 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2550 

    (-)น้ำมัน: ติดตามความคืบหน้าของการเปิดการเจรจาระหว่าง 6 ประเทศแกนนำหลักของโลกและอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านว่าการเจรจาจะมีขึ้นเมื่อใดและสถานที่ใด รวมทั้งอิหร่านจะยอมให้สำนักงานปรมาณูสากลเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ การประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปในวันที่ 23 มี.ค. นี้ ที่จะหารือในเรื่องมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่าน หลังผู้นำเข้าเอเชียเรียกร้องให้ยกเว้นการคว่ำบาตรต่อบริษัทประกันภัยที่ทำประกันน้ำมันดิบของอิหร่าน

    (+)NOBLE จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2554 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท XD 4 พ.ค.55

     ( + )  SIRI เตรียมโชว์ต่างประเทศ :  นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นของบริษัทมากขึ้น หลังจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม เพิ่มขึ้นมากเป็น 500 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีแผนโรดโชว์ มากขึ้น ล่าสุดมีโบรกเกอร์ติดต่อให้ไปโรดโชว์ที่ยุโรปและอเมริกา  สำหรับการจัดงานบริษัททดทะเบียนพบผู้ลงทุนเมื่อวาน (19 มี..) ผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท จากยอด Backlog 3.5 หมื่นล้านบาท  โดยจะในไตรมาส 4/55 จะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการจะส่งผลให้ในไตรมาส 4/55 จะทำสถิติสูงสุดทั้งในแง่กำไรและรายได้   บริษัทคาดปีนี้อัตรากำไรสุทธิจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-11% อยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราการทำกำไรขั้นต้นจะปรับลดลง หรืออยู่ที่ระดับ 32% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 33-35% เป็นผลจากค่าแรงขั้นต่ำที่จะเพิ่มเป็น 300 บาทต่อวันในเดือน เม..นี้ และราคาวัสดุก่อสร้างที่เริ่มแพงขึ้นหลังน้ำท่วม 3-5% ซึ่งคาดตลอดทั้งปีราคาวัสดุก่อสร้างจะแพงขึ้น 7-10%  ดังนั้น เบื้องต้นเราประเมิน SIRI จะมีกำไรในปี 2555 เท่ากับ 2,800 ล้านบาท หรือ คิดเป็น กำไรต่อหุ้น ประมาณ 0.36 บาท

     BY  Vajiralux

    Read more »

    Thursday, February 16, 2012

    Stock Focus,PTT, 16.FEB.2005., 15.40




    ปตท. (PTT) เป้า 394 บาท

    กบง.มีมติให้ขึ้นราคา NGV-LPG, เก็บเงินเบนซินเข้ากองทุนฯ ตามกำหนด 16 ..55 (กบง.) มีมติปรับขึ้นราคา NGV อีก 50 สตางค์/กิโลกรัม และ ก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคขนส่ง 75 สตางค์/กิโลกรัม นอกจากนี้ มีมติให้เก็บเงินจากน้ำมันกลุ่มเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีกลิตรละ 1 บาท ในวันที่ 16 .. ตามกำหนด.
    คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเรามองว่าเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อ PTT โดยก่อนวันที่ 16 .. 55 ราคาก๊าซเอ็นจีวีได้มีการปรับขึ้น 0.50 บาทต่อกิโลกรัม จาก 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 9 บาทต่อ โลกรัม การปรับขึ้นราคาในครั้งนี้จะทำให้ราคาก๊าซเอ็นจีวี อยุ่ที่ 9.50 บาทต่อกิโลกรัมโดยเรายังคงต้องจับตาดูหลังจากเดือน พ.. 55 ว่า กบง. ยังคงมีมติให้ปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีขึ้นต่อหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบัน PTT ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลจำนวน 2 บาทต่อ กิโลกรัม การปรับราคาขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกโดยรวม จำนวน 2 บาทต่อ กิโลกรัม จึงยังไม่ส่งผลต่อ PTT มากนัก โดยเงินชดเชยจากรัฐบาลจะทยอยปรับลดลงเพื่อรับกับราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น และยังมีระเด็นความไม่พอใจในการปรับขึ้นราคาของ ผู้ประกอบการรถรับส่งสาธารณะ (ซึ่งมีจำนวนการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ประมาณ 25% ของการใช้ทั้งหมด) โดยปัจจุบัน PTT ได้ร่วมกับกระทรวงพลังงานเพื่อออกบัตรส่วนลดจำนวน 2 บาทต่อ กิโลกรัม ให้กับผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ประกอบการจะเริ่มรับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาหลังจากเดือน พ.. 55 ไปแล้วโดยเรายังคงมองว่า ถ้าราคาก๊าซเอ็นจีวี สามารถปรับขึ้นได้จริง ผลขาดทุนจากการตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวี ของ PTT ซึ่งคาดว่าในปี 2554 มีจำนวนประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี (คิดจากสมมุติฐานที่ว่าต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ 14.50 บาทต่อ กิโลกรัม) จะสามารถปรับตัวลดลงได้ประมาณ 3พันล้านบาทในปี 2555 (ทำให้เหลือผลขาดทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ดีการที่ราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยขณะนี้ราคาอยู่ที่ 7 เหรียญฯต่อล้านบีทียู (ราคาเฉลี่ยในปี 2554 อยู่ที่ 6 เหรียญฯต่อล้านบีทียู) จะเป็นปัจจัยผลักดันต้นทุนของ ก๊าซเอ็นจีวี ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 14.50 บาทต่อ กิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ถึงแม้ราคาก๊าซเอ็นจีวี ในประเทศจะสามารถปรับตัวมาถึง 14.50 บาทต่อ กิโลกรัม ภายในปลายปีนี้แต่ PTT ยังคงต้องแบกรับผลขาดทุนต่อไปแต่ในที่สุดหาก PTT สามารถปรับขึ้นราคา NGV สะท้อนต้นทุนแท้จริงได้ (Floating Price) จะทำให้กำไรรวมรายปีของ PTT เพิ่มขึ้นจากฐานเดิมได้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น EPS เพิ่มราว 3.5 บาทต่อหุ้น จากฐานปี 2554 มีกำไร EPS ที่ 39.4 บาทต่อหุ้น ถือว่ากำไรเพิ่มราว 10% ต่อปี สำหรับการขึ้นราคา LPG เราเชื่อว่ายังไม่ส่งผลต่อ PTT มากนักเพราะ ผู้แบกรับส่วนต่างราคา LPG ส่วนใหญ่ค่อ รัฐบาลฯ โดย PTT เป็นตัวกลางในการ ซื้อและนำเข้า และรอเรียกเก็บเงินจากรัฐบาลฯ แต่เรามองว่าน่าจะส่งผลดีต่อโรงกลั่นซึ่งสามารถกลั่น LPG โดยขณะนี้ ปริมาณการกลั่น LPG ของ TOP เพิ่มขึ้นจาก 3% มาเป็น 5% ในปี 2554 เนื่องจากมีสเปรดที่ดีขึ้น (สเปรดเมื่อลบกับราคาน้ำมันของดูไบได้ปรับตัวดีขึ้นจาก -48 เหรียญต่อบาร์เรลเป็น -41.3 เหรียญฯต่อบาร์เรล ในปี 2554) โดยสูตรการคิดราคา LPG คือ 76% คิดที่ราคาในตลาดและอีก 24% จะคิดที่ราคาที่ถูกตรึงไว้ที่ 333 เหรียญต่อตัน

    Read more »