Our greatest glory is not in never falling, 
but in rising every time we fall. 
บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC)
แนวโน้มผลประกอบการจะพลิกฟื้น หุ้นราคาถูก
ผู้บริหาร SYNTEC ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,200-5,300 ล้านบาท โต 10- 12% ตัวเลขงานในมือยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ทำสถิติสูงสุดใหม่ ณ สิ้นปี 2554 เท่ากับ 6,657 ล้านบาท และ กำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท คาดได้งานเพิ่ม 5-5.5 พันล้านบาท เพียงไตรมาสแรกได้งาน แล้ว 2,364 ล้านบาท ไตรมาสแรกกำไรจะยังไม่ดีหนัก แต่คาดกำไรรวมปี 2555 จะพลิกฟื้นกลับมามีกำไรปกติ 200 ล้านบาท (+106%yoy) หุ้นซื้อขาย P/E ปี 2555 ต่ำเพียง 7.04 เท่า และ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ ระดับ 1.43 บาท มาก แนะนำ ซื้อ ลงทุน ประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 1.2 บาท โดยจะมีอัพไชด์เพิ่มในปีหน้าจากขายที่ดินช่วยเพิ่มกำไร 50-100%
 
งานในมือที่ยังไม่ส่งมอบทำสถิติสูงสุดใหม่ 6,657 ล้านบาท: บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (4 เม.ย.) ผู้บริหารเปิดเผยตัวเลข งานในมือปัจจุบันที่ยังไม่ได้ส่งมอบสูงถึง 6,657 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ มีทั้งหมด 29 โครงการ โดยมีโครงการที่ใหญ่สุดคือ UBC-III & EM-2 มูลค่าโครงการ 2,008 ล้าน บาท คาดงานในมือดังกล่าวจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3 พันล้านบาท
ปีนี้จะเข้าประมูลงานประมาณ 2 หมื่นล้านบาท คาดได้งาน 5-5.5 พันล้านบาท:
ในปี 2555 ทาง SYNTEC กำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ทั้งหมด 35 โครงการ เป็นงาน เอกชน 32 โครงการ คาดจะได้งานประมาณ 5-5.5 พันล้านบาท โดยเพียงไตรมาสแรก SYNTEC ได้งานมาแล้วทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวม 2,364 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ที่ตั้งเป้าหมายไ
ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,200-5,300 ล้านบาท โต 10-12%: ผู้บริหารประเมิน ยอดรับรู้รายได้งานก่อสร้างในปีนี้ประมาณ 5,200-5,300 ล้านบาท หรือ เติบโต 10-12% และ อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับขึ้นเป็นประมาณ 10% จากปีก่อนที่ลดลงเหลือเพียง 7.1% เนื่องจากปีก่อนถูกกระทบจากน้ำท่วม และ ต้นทุนจากการเก็บงานบางโครงการ
ค่าแรง 300 บาท จะกระทบต่อต้นทุนโครงการ 3-4%: ปัจจุบัน SYNTEC มีคนงานก่อสร้างประมาณ 4,500 คน โดยต้นทุนค่าแรงงานคิดเป็น 30% ของมูลค่างานที่ SYNTEC ได้รับ ถ้าหากปรับค่าแรงขึ้น 300 บาท คาดจะทำให้ต้นทุนค่าแรงขึ้นประมาณ 15-20% ดังนั้น สุทธิแล้ว คาดจะกระทบต่อต้นทุนโครงการประมาณ 3-4% โดย 5 โครงการใหม่ที่ประมูลได้ในปีนี้มูลค่า 2,364 ล้านบาท ได้บวกต้นทุนส่วนนี้เพิ่มแล้ว ซึ่งจะ มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 10-12%
คาดผลประกอบการปี 2555 จะพลิกฟื้น: ยอดขาย และกำไรในปี 2554 ถูกกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และ บางโครงการที่สร้างเสร็จซึ่งบันทึกต้นทุนแล้ว แต่มีปัญหากับลูกค้า ทำให้ยังไม่สามารถรับรู้รายได้ได้ จึงทำให้กำไรปี 2554 ต่ำกว่าปกติเพียง 97 ล้านบาท จากปกติจะมีกำไรปีละประมาณ 200-300 ล้านบาท เราคาดผลประกอบการปี 2555 จะพลิกฟื้นมาสู่ระดับปกติ โดย ยอดขายคาดจะโต 10% สู่ระดับ 5,200 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 200 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท) โตถึง 106% 
ปี 2556 จะมีอัพไชด์จากการขายที่ดิน หรือ พัฒนาโครงการร่วม 100-175 ล้านบาท: 
ปี 2556 มีแนวโน้มจะมีอัพไชด์กำไรเพิ่มเติมร่วมอีก 100-175 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ กำไรรวมพุ่งขึ้นถึง 300-400 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.19-0.25 บาท) จากที่ดินเปล่า บริเวณ อยู่บริเวณ รามอินทรา ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เนื้อที่ 55 ไร่ ซื้อมาไร่ละ ประมาณ 1.8 ล้านบาท มูลค่ารวม 99 ล้านบาท โดยราคาตลาดในปัจจุบันได้พุ่งขึ้นมา เป็นประมาณ 4-5 ล้านบาท/ไร่ ซึ่ง SYNTEC มีทางเลือกที่จะขายที่ดิน หรือ พัฒนา โครงการ
คาดกำไรไตรมาส 1/55 จะยังไม่โดดเด่น มีกำไรเพียง 20 ล้านบาท: 
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/55 เราประเมินจะมีการรับรู้รายได้งานก่อสร้างประมาณ 1,100-1,200 ล้านบาท มากกว่าไตรมาสก่อนและปีก่อนเล็กน้อย ที่มียอดรับรู้รายได้ 1,085-1,092 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะยังอยู่ในระดับต่ำประมาณ 7.0-7.5% เนื่องจากเป็นงานต่อเนื่องจากไตรมาส 4/54 รวมถึงมีการเก็บงานที่มีปัญหาทำให้ต้นทุนสูงกว่าปกติ และ จะทำให้มีกำไรสุทธิประมาณ 20 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาส 4/54 ที่มีกำไร เพียง 1 ล้านบาท แต่แย่กว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 37 ล้านบาท 
หุ้นซื้อขาย P/E ต่ำ และ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมาก แนะนำซื้อ ลงทุน: 
ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 0.88 บาท ซื้อขาย P/E ปี 2555 ที่ต่ำเพียง 7.04 เท่า และ ต่ำกว่ามูลค่าตาม บัญชีต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.43 บาท มาก รวมถึงเป็นหุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้สิน สุทธิต่อทุนต่ำเพียง 0.11 เท่า แนวโน้มราคาหุ้นคาดจะมีอัพไชด์ จากแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้จะพลิกฟื้นกลับมาสู่ระดับปกติ จากงานในมือทำสถิติสุงสุดใหม่ ดังนั้นเราจึงแนะนำ ซื้อ โดยมองข้ามผลประกอบการไตรมาสแรกซึ่งจะยังไม่ดีหนัก แต่ช่วงที่ เหลือของปีจะดีขึ้นมาก เราประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 1.20 บาท บนฐาน P/E ปี 2555 เท่ากับ 10 เท่า
by  Surachai  
 
Read more »