Tuesday, April 10, 2012

Stock Focus,BANPU,10.Apr.2012., 10.41

 

BANPU เผยปีนี้ไม่ได้รับผลกระทบ

BLCP แต่หากต้องหยุดกระทบกำไร 10%


นายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU) เปิดเผยถึง กรณีที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีได้ทำเรื่องมาถึง กฟผ. เพื่อขอแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หลังผู้จัดหาถ่านหินของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีขอเจรจาเพิ่มราคาขายถ่านหินที่ทำสัญญาไว้ก่อนหน้าว่า ในปีนี้โรงไฟฟ้า BLCP จะยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะผู้จัดหาถ่านหินรายใหญ่ดังกล่าวได้ทำสัญญาส่งมอบถ่านครบทั้งหมดแล้วในปีนี้ แต่หากกรณีที่ผู้จัดหาถ่านรายดังกล่าวหยุดส่งถ่านหินให้บีแอลซีพีก็จำเป็นต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งหาก BLCP หยุดดำเนินการจะมีผลกระทบต่อกำไรของ BANPU กว่า 10% โรงไฟฟ้า BLCP ปีนี้มีถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงครบทั้งหมดแล้วในปีนี้ จึงคาดว่าปี 2555 ไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ BANPU และ EGCO

ความเห็น: BANPU ถือหุ้น BLCP ร่วมกับ EGCO ฝ่ายละ 50% มีกำลังการผลิต 1,434 เมกะวัตต์ ในปี 2555 คาดว่ากำไรสุทธิจะเข้ามาตามเป้าหมาย 2,016 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 10% ของกำไรสุทธิของ BANPU ที่ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และในปีต่อไปจากนี้กำไรของ BLCP มีโอกาสลดน้อยถอยลงได้อีก ทั้งนี้ธุรกิจโรงไฟฟ้า BLCP มีการปันส่วนรายได้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป เนื่องจากเริ่มพ้นปีที่ 5 ของโรงไฟฟ้า การรับรู้กำไรจะลดลงจากเดิมอยู่ที่ประมาณปีละ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ผู้จัดหาถ่านหินรายนี้ (คาดว่าเป็น Rio Tinto) เข้ามาเจรจากับ กฟผ.โดยเจรจาขอเพิ่มราคาถ่านหินเป็นราว 90 เหรียญฯ/ตัน เพื่อให้ cover ต้นทุนและมีกำไรได้บ้าง จากในสัญญาเดิมกำหนดที่ 50 กว่าเหรียญฯ/ตัน ซึ่งราคา 50 เหรียญฯนี้เทียบแล้วต่ำกว่าต้นทุนและต่ำกว่าราคาตลาด เรื่องนี้ต้องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)พิจารณาและเสนอไปถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)

ปัจจุบันผู้จัดหาถ่านหินรายนี้ส่งถ่านให้ 3.6 ล้านตันต่อปี ยังต้องส่งถ่านหินให้ BLCP อีกเกือบ 20 ปี แต่ถ้าต้องหยุดส่งความเสียหายต่อส่วนรวมมาก เพราะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ กรณีที่ BLCP จะไปซื้อถ่านหินจากรายอื่นได้หรือไม่นั้น นายชนินทร์กล่าวว่า ถ้าเราจะต้องไปซื้อจากรายอื่นก็ต้องซื้อที่ราคากว่า 100 เหรียญฯ เพราะราคาตลาดตอนนี้อยู่แถว 109-110 เหรียญฯ แต่ถ้าเจรจากับผู้จัดหารายเดิมนี้ได้แล้วตกลงกันได้ก็ยังจะดำเนินกิจการไปได้อีกเกือบ 20 ปี ต้นทุนก็ต่ำกว่าระบบก็ไม่มีปัญหา

คำแนะนำ: กรณีดังกล่าวจะสร้างความไม่แน่นอนให้กับ BANPU กรณีการรับรู้รายได้จากธุรกิจที่เป็นหลักสำคัญคือไฟฟ้า และโดยเฉพาะ BLCP นั้นในปีที่ผ่านมาพบว่าการ Contribute กำไรให้กับกลุ่ม BANPU มากถึง 1 ใน 3 (ประมาณ 6,000 ล้านบาท จากกำไรสุทธิรวม 18,000 ล้านบาท) แต่ในปี 2555 เป็นต้นไปจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเหลือเพียง 10% ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่จริง Operating Profit ของ BANPU ได้ดีขึ้นจากธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียและออสเตรเลียเป็นหลัก Fair Value จากธุรกิจ BLCP หากต้องหยุดไปจะมีมูลค่ารวม 71 บาทต่อหุ้น จาก Fair Value รวม 762 บาท เราเชื่อว่าสำหรับ BANPU และ EGCO ได้ run โรงไฟฟ้า BLCP และเก็บเกี่ยวกำไรจนคุ้มทุนไปแล้ว แต่ตัวโรงไฟฟ้ายัง Generate รายได้ต่อไปได้อีก เราเชื่อว่าในเวลานี้ กฟผ.เองคงต้องกลับมาพิจารณา PPA ทั้งระบบ เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้าของทั้งประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจาก BLCP ของ BANPU แล้วยังมีโรงไฟฟ้าระยอง และขนอม ของ EGCO ที่ยังมี Overhang เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้งสองใกล้หมดอายุ PPA ในปี 2557 และ 2559 ด้วย คำแนะนำการลงทุนใน BANPU คือรอให้ข่าวดังกล่าวคลี่คลายอย่างมีคำตอบที่ดีก่อนและหาจังหวะทยอยสะสมหุ้น BANPU เนื่องจากนับจากนี้ไปเราซื้อ BANPU เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจ E&P ถ่านหิน ที่มี Gross Margin สูงในระดับ 51% ส่วนของไฟฟ้าจากนี้ไปถือเป็นรายได้เสริม แต่ต้องระมัดระวังว่าหากหยุดการ Operate BLCP ไปเลยจะมีผลขาดทุนเข้ามาจาก Variable Cost ราคาประมาณ 580 บาทถือว่า Reasonable Price ในระยะยาวแล้ว
BY Vajiralux Sanglerdsillapachai

http://veryinvestment.blogspot.com/

Read more »

Thursday, April 5, 2012

Gold Price, 5.Apr.2012., 19.15


SupportResistanceNow
Gold Spot                 1612-1618             1628-1638               1623
US$ / TH฿ 30.9231.1831
Gold Future23850-2392024140-2438023960
Gold Price 238002415023950

 

 บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน ,  ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

Comment: ราคาทองคืนนี้มีโอกาสเด้งขึ้นมากกว่าเมื่อวานอีก เนื่องจาก gold spot ลงมาแรง ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วยพยุงอยู่แต่ได้ผลน้อย ซึ่งวันนี้หวังว่า gold spot จะดีดกลับบ้าง เพื่อไปทดสอบแนวต้าน 1638 ครับ  สรุป มองว่าราคาทองมีโอกาสดีดกลับครับ  จุดสังเกต gold spot สามารถผ่าน 1625-1628 ก็จะขึ้นไปต่อได้เลย *** กรณีผมคาดการผิด gold spot หลุดแนวรับที่ 1621 ลงมาอาจจะลงต่อ หรือมีโอกาสไปทดสอบแนวรับที่ 1618 -1612 ครับ  




Read more »

Stock Focus,SYNTEC,5.Apr.2012., 16.25

 

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC)

แนวโน้มผลประกอบการจะพลิกฟื้น หุ้นราคาถูก

ผู้บริหาร SYNTEC ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,200-5,300 ล้านบาท โต 10- 12% ตัวเลขงานในมือยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ทำสถิติสูงสุดใหม่ ณ สิ้นปี 2554 เท่ากับ 6,657 ล้านบาท และ กำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท คาดได้งานเพิ่ม 5-5.5 พันล้านบาท เพียงไตรมาสแรกได้งาน แล้ว 2,364 ล้านบาท ไตรมาสแรกกำไรจะยังไม่ดีหนัก แต่คาดกำไรรวมปี 2555 จะพลิกฟื้นกลับมามีกำไรปกติ 200 ล้านบาท (+106%yoy) หุ้นซื้อขาย P/E ปี 2555 ต่ำเพียง 7.04 เท่า และ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ ระดับ 1.43 บาท มาก แนะนำ ซื้อ ลงทุน ประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 1.2 บาท โดยจะมีอัพไชด์เพิ่มในปีหน้าจากขายที่ดินช่วยเพิ่มกำไร 50-100%
งานในมือที่ยังไม่ส่งมอบทำสถิติสูงสุดใหม่ 6,657 ล้านบาท: บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (4 เม.ย.) ผู้บริหารเปิดเผยตัวเลข งานในมือปัจจุบันที่ยังไม่ได้ส่งมอบสูงถึง 6,657 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ มีทั้งหมด 29 โครงการ โดยมีโครงการที่ใหญ่สุดคือ UBC-III & EM-2 มูลค่าโครงการ 2,008 ล้าน บาท คาดงานในมือดังกล่าวจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3 พันล้านบาท
ปีนี้จะเข้าประมูลงานประมาณ 2 หมื่นล้านบาท คาดได้งาน 5-5.5 พันล้านบาท:
ในปี 2555 ทาง SYNTEC กำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ทั้งหมด 35 โครงการ เป็นงาน เอกชน 32 โครงการ คาดจะได้งานประมาณ 5-5.5 พันล้านบาท โดยเพียงไตรมาสแรก SYNTEC ได้งานมาแล้วทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวม 2,364 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ที่ตั้งเป้าหมายไ
ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,200-5,300 ล้านบาท โต 10-12%: ผู้บริหารประเมิน ยอดรับรู้รายได้งานก่อสร้างในปีนี้ประมาณ 5,200-5,300 ล้านบาท หรือ เติบโต 10-12% และ อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับขึ้นเป็นประมาณ 10% จากปีก่อนที่ลดลงเหลือเพียง 7.1% เนื่องจากปีก่อนถูกกระทบจากน้ำท่วม และ ต้นทุนจากการเก็บงานบางโครงการ
ค่าแรง 300 บาท จะกระทบต่อต้นทุนโครงการ 3-4%: ปัจจุบัน SYNTEC มีคนงานก่อสร้างประมาณ 4,500 คน โดยต้นทุนค่าแรงงานคิดเป็น 30% ของมูลค่างานที่ SYNTEC ได้รับ ถ้าหากปรับค่าแรงขึ้น 300 บาท คาดจะทำให้ต้นทุนค่าแรงขึ้นประมาณ 15-20% ดังนั้น สุทธิแล้ว คาดจะกระทบต่อต้นทุนโครงการประมาณ 3-4% โดย 5 โครงการใหม่ที่ประมูลได้ในปีนี้มูลค่า 2,364 ล้านบาท ได้บวกต้นทุนส่วนนี้เพิ่มแล้ว ซึ่งจะ มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 10-12%
คาดผลประกอบการปี 2555 จะพลิกฟื้น: ยอดขาย และกำไรในปี 2554 ถูกกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และ บางโครงการที่สร้างเสร็จซึ่งบันทึกต้นทุนแล้ว แต่มีปัญหากับลูกค้า ทำให้ยังไม่สามารถรับรู้รายได้ได้ จึงทำให้กำไรปี 2554 ต่ำกว่าปกติเพียง 97 ล้านบาท จากปกติจะมีกำไรปีละประมาณ 200-300 ล้านบาท เราคาดผลประกอบการปี 2555 จะพลิกฟื้นมาสู่ระดับปกติ โดย ยอดขายคาดจะโต 10% สู่ระดับ 5,200 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 200 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท) โตถึง 106%
ปี 2556 จะมีอัพไชด์จากการขายที่ดิน หรือ พัฒนาโครงการร่วม 100-175 ล้านบาท:
ปี 2556 มีแนวโน้มจะมีอัพไชด์กำไรเพิ่มเติมร่วมอีก 100-175 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ กำไรรวมพุ่งขึ้นถึง 300-400 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.19-0.25 บาท) จากที่ดินเปล่า บริเวณ อยู่บริเวณ รามอินทรา ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เนื้อที่ 55 ไร่ ซื้อมาไร่ละ ประมาณ 1.8 ล้านบาท มูลค่ารวม 99 ล้านบาท โดยราคาตลาดในปัจจุบันได้พุ่งขึ้นมา เป็นประมาณ 4-5 ล้านบาท/ไร่ ซึ่ง SYNTEC มีทางเลือกที่จะขายที่ดิน หรือ พัฒนา โครงการ
คาดกำไรไตรมาส 1/55 จะยังไม่โดดเด่น มีกำไรเพียง 20 ล้านบาท:
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/55 เราประเมินจะมีการรับรู้รายได้งานก่อสร้างประมาณ 1,100-1,200 ล้านบาท มากกว่าไตรมาสก่อนและปีก่อนเล็กน้อย ที่มียอดรับรู้รายได้ 1,085-1,092 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะยังอยู่ในระดับต่ำประมาณ 7.0-7.5% เนื่องจากเป็นงานต่อเนื่องจากไตรมาส 4/54 รวมถึงมีการเก็บงานที่มีปัญหาทำให้ต้นทุนสูงกว่าปกติ และ จะทำให้มีกำไรสุทธิประมาณ 20 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาส 4/54 ที่มีกำไร เพียง 1 ล้านบาท แต่แย่กว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 37 ล้านบาท
หุ้นซื้อขาย P/E ต่ำ และ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมาก แนะนำซื้อ ลงทุน:
ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 0.88 บาท ซื้อขาย P/E ปี 2555 ที่ต่ำเพียง 7.04 เท่า และ ต่ำกว่ามูลค่าตาม บัญชีต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.43 บาท มาก รวมถึงเป็นหุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้สิน สุทธิต่อทุนต่ำเพียง 0.11 เท่า แนวโน้มราคาหุ้นคาดจะมีอัพไชด์ จากแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้จะพลิกฟื้นกลับมาสู่ระดับปกติ จากงานในมือทำสถิติสุงสุดใหม่ ดังนั้นเราจึงแนะนำ ซื้อ โดยมองข้ามผลประกอบการไตรมาสแรกซึ่งจะยังไม่ดีหนัก แต่ช่วงที่ เหลือของปีจะดีขึ้นมาก เราประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 1.20 บาท บนฐาน P/E ปี 2555 เท่ากับ 10 เท่า
by  Surachai  

Read more »

Gold Price, 5.Apr.2012., 9.45


SupportResistanceNow
Gold Spot                 1612-1618             1628-1638               1623
US$ / TH฿ 30.9231.1831
Gold Future23850-2392024140-2438023960
Gold Price 238002415023950

 

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,

Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

Comment: ราคาทองช่วงเช้านี้มีโอกาสเด้งขึ้นมากกว่าเมื่อวานอีก เนื่องจาก gold spot ลงมาแรง ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วยพยุงอยู่แต่ได้ผลน้อย ซึ่งวันนี้หวังว่า gold spot จะดีดกลับบ้าง สรุป มองว่าราคาทองมีโอกาสดีดกลับ

Read more »

Wednesday, April 4, 2012

Stock Focus,TOP,4.Apr.2012., 18.00

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก


บริษัท ไทยออยล์ จำกัด

(มหาชน) (TOP)

Preview: กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 สูง 6 พันล้านบาท

ปี 2555 คาดว่า TOP มี Upside มากในส่วนของธุรกิจการกลั่น เราคาดการณ์ค่าการกลั่นเฉลี่ยในปี 2555 เท่ากับ 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เฉพาะธุรกิจการกลั่นในไตรมาส 1/55 ถือว่าทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยคือ Real GRM+Stock Gain ทำได้แล้ว 8 เหรียญฯ เราคาดว่าสเปรดพาราไซลีนทรงตัวในระดับที่ดีจะหนุนกำไรช่วง 1H55 ดี แนะนำซื้อ TOP ให้มูลค่าเหมาะสม 84 บาท อิงค่า PER ในปี 2555 ที่ 10เท่า เลือกใช้วิธีนี้แทนที่จะใช้วิธี DCF ซึ่งได้มูลค่า 91 บาท เนื่องจากลักษณะของกำไรเข้าในแต่ละปี และแต่ละไตรมาสยังไม่สม่ำเสมอ มีความเป็นคอมมอดิตี้สูง(ทำให้กำไรผันผวน) แต่ปันผลจูงใจ ในระดับ 5% ต่อปี
คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 6,051 ล้านบาท - 16% YoY แต่ +225% QoQ โดยกำไรสุทธิ GIM หรือ Gross Integrated Margin ในไตรมาสนี้คาดว่าจะสูงถึง 11 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (4Q54 เท่ากับ 6.3 เหรียญฯ และทั้งปี 2554 เท่ากับ 9.3 เหรียญฯ)แยกเป็น 1.Based GRM เท่ากับ 3 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 4/54 ที่ 3.1 เหรียญฯ 2.กำไรสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain) ประมาณ 5 เหรียญฯ(4Q54 เท่ากับ 0.6 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล)คิดเป็นกำไรสต๊อกส่วนนี้คาดว่าจะอยู่ที่ราว 3,416 ล้านบาท เทียบ เป็นส่วนต่างราคาน้ำมันปลายงวด-ต้นงวด สูงถึง 14 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาต้นงวด 106 เหรียญฯ ปลายงวด 120 เหรียญฯ 3.ส่วนต่าง สเปรดอะโรเมติกส์ อีกประมาณ 2 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (4Q54 เท่ากับ 1.7 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล) และค่าการกลั่นของ Lube Base เท่ากับ 1 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงไตรมาส 4/54 Utilization rate โรงกลั่น 100%, พาราไซลีน 108% และ Lube 97% ทั้งนี้ค่าการกลั่นในเดือน มี.ค.ตกมามากเหลือ เพียง 4 เหรียญฯ เพราะเหตุที่อากาศในยุโรปหนาวมาก แต่ไม่หนาวนานทำให้ระยะหลังมี การระบายสต๊อกออกมา น้ำมันเตาธรรมดาที่ไม่ใช่ Premium Grade ราคาทรุดหนัก

ข้อดีในปีนี้ของ TOP คือเราคาด Effective Tax Rate ต่ำเพียง 18% คาดไตรมาส 1/55 นี้ 19.8% เป็นอัตราภาษีที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ ของโรงกลั่นและปิโตรเคมีจาก BOI คาดว่าอาจจะใช้ในไตรมาสนี้ราว 100-200 ล้านบาท จากทั้งหมดที่จะใช้ได้รวมราว 7,000 ล้านบาท ใช้ไปในปีก่อนแล้ว 600 ล้านบาท และ ทยอยใช้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
แนะนำซื้อ โดยให้มูลค่าเหมาะสมที่ 84 บาท คิดตาม PER ที่ 10 เท่า ทั้งนี้เราประเมินราคาเหมาะสมของ TOP ผ่านสองวิธีคือ (1)ประเมินค่า PER 10 เท่าในปี 2555 เท่ากับ 84 บาท (EPS เท่ากับ 8.4 บาทต่อหุ้น) นอกจากนี้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยภาษีเงินได้ ลดลงมาจากฐาน 30% เหลือ 23% และหักลบด้วย Tax Credit จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปิโตรเคมีอีกรวมทั้งปีเราประเมินการใช้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท (2)ประเมิน DCF ปี 2555-2562 ที่ WACC 11.11% ได้มูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 91 บาท เราเลือกใช้ราคาเป้าหมายจากการประเมินในวิธีแรก มองภาพรวมอุตสาหกรรมอาจจะ ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2552 รอดูว่าจะผ่านระดับพีคในปี 2556 ไปได้ดีหรือไม่


วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย

Read more »

Gold Price, 4.Apr.2012., 17.45


SupportResistanceNow
Gold Spot                 1618-1628             1638-1651               1633
US$ / TH฿ 30.78-30.8430.98-31.1830.95
Gold Future23870-2416024360-2454024210
Gold Price 239002430024050

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

Comment: ราคาทองในคืนนี้ ยังพอมีโอกาสลุ้น การเด้งขึ้น เนื่องจาก gold spot ลงมาแรง ส่วนค่าเงินบาท อ่อนค่าเพียงเล็กน้อย ดังนั้นสรุป คิดว่าทอง GFJ12 คืนนี้ถ้าลงต่ำกว่า 24200 หรือ gold spot ต่ำกว่า 1630 เล็กน้อย น่าจะพอรับเพื่อเด้ง *** กรณี ไม่เด้งขึ้นจุดสังเกต gold spot หลุด 1627-1625 ลงไปก็ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว หาทางหนีครับ , ส่วนค่าเงินคงเคลื่อนไหวน้อย น่าจะมีผลน้อยครับ



Read more »

Stock Focus,4.Apr.2012., 10.40


 

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,

Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก


TOP, PTTGC, PTT, PTTEP, JAS

เชื่อว่าพักฐานตามตลาดต่างประเทศ

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะเปิดในแดนลบเล็กน้อย เรามอง 1,212 จุด เป็นแนวต้านสำคัญ การซื้อขายอาจจะยังเบาบางด้วยเหตุเป็นวันหยุดในตลาดฮ่องกง และเตรียมตัวเข้าช่วง Holiday สิ้นสัปดาห์นี้ ในขณะที่ก่อนปิดทำการไปพักผ่อนสุดสัปดาห์นี้ ภาคพื้นยุโรปได้ฝากความ วิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของสเปน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน พุ่งขึ้น 0.10% แตะที่ 5.43% เมื่อวานนี้ กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในวันนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็น Bottom Fishing แต่การที่นักลงทุนเริ่มตระหนักแล้วว่าแม้ประกาศกำไรไตรมาสออกมาดี แต่ก็เป็นกำไรที่ Sustain การเติบโตขึ้นต่อเนื่องไปไม่ได้ นี่คือลักษณะเด่นของคอมมอดิตี้ ที่ทำให้นักลงทุนไม่ตื่นเต้นกับตัวเลขกำไรดีของธุรกิจที่กำไรผันผวนแล้ว และหันไปเลือกลงทุนในธุรกิจที่เป็น Domestic Play เติบโตตามความต้องการซื้อของประชากรในพื้นที่นั้นแทน อย่างไรก็ตาม หากราคาหุ้นถูกมาก เราเชื่อว่า Risk/Reward Ratio จะคุ้มพอที่จะเข้าไปลงทุนในช่วงนี้เราหันกลับมาเน้นการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมี: ทั้ง TOP,PTTGC, BCP, ESSO, IRPC, PTT ยังคงเลือก TOP BUY 3 ตัวจากส่วนนี้เราเลือก TOP, PTTGC, PTT 1.เนื่องจากราคาหุ้นต่ำกว่าเป้าหมายอย่างมาก เช่น TOP ราคาอยู่ใกล้ Replacement cost ที่ 68 บาท ณ ระดับราคาดังกล่าวสะท้อนว่าถ้าเราจะสร้างโรงกลั่นใหม่ในขนาดของ TOP เราคงใช้เงินไม่ต่ำกว่า 68 บาทต่อหุ้น TOP หรือแม้แต่ ESSO ซึ่งผลประกอบการปี 2554 ย่ำแย่ และไม่แน่ใจเรื่องการซื้อขายดีลของโรงกลั่น ESSO ว่ามีจริงหรือไม่ แม้จะเกิดการขายโรงกลั่นขึ้นแล้ว 2 แห่งในเอเชียคือมาเลเซีย และญี่ปุ่น มูลค่าการซื้อขายก็สูงกว่า Market Cap ของ ESSO ถึงราว 40% (BCP กำไรดีขึ้น QoQ แต่หุ้นเหลือ Upside น้อยจากการโดดขึ้นไปเมื่อวานนี้ เราจึงเลือก TOP, PTTGC แทน) 2.เราเชื่อว่าในไตรมาส 1/55 นี้ธุรกิจโรงกลั่นโดยรวมจะมี Stock Gain กันมากถึงราว 14 เหรียญฯ จากการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบต้นงวดอยู่ที่ 106 เหรียญฯ ปลายงวดอยู่ที่ 120 เหรียญฯ และค่าเฉลี่ยระหว่างงวดอยู่ที่ 116.05 เหรียญฯ ESSO ก็เป็นอีกโรงกลั่นที่แม้กำไรไตรมาส 4/54 ย่ำแย่ เพราะราคาน้ำมันอ่อนตัวทำให้มี Stock Loss พร้อมกับผลกระทบของการ Planned Shutdown จะกลับมามีกำไรสูงในไตรมาส 1/55 ด้วยเช่นกัน แต่นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายที่เกิดขึ้นอาจเกิดเพราะความคาดหวังที่มากเกินไปของนักลงทุนบางส่วนต่อเรื่องดีลการซื้อขายโรงกลั่น ทั้งนี้ หลายกิจการในกลุ่ม PTT กลับมามีกำไรดีขึ้นมากในไตรมาส 1/55 นี้ หากหุ้นกลุ่มนี้ถูก Rerated ขึ้นตลาดหุ้นโดยรวมอาจไม่ปรับตัวลงแล้ว
ภาระหนี้สินสเปน: นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สินของสเปนและได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อตลาดหุ้นทั่วยุโรป โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลสเปนคาดการณ์ว่า สัดส่วนหนี้สินของสเปนอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 79.8% ของจีดีพีในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ตลาดแรงงานของสเปนก็ถดถอยลงอย่างมาก หุ้นธนาคารป๊อปปูเลร์ เดอ มิลาโน ดิ่งลง 6.6% หุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ ร่วงลง 4% หุ้นธนาคารอินเทซา ซานเปาโล ร่วงลง 4.7% และหุ้นยูนิเครดิต ดิ่งลง 5%
สหรัฐฯ: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5% เฟดมีความเห็นตรงกันในการประชุมครั้งล่าสุดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้นปานกลาง แต่ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับตลาดแรงงาน รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ แทบไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นสำหรับการซื้อพันธบัตรเพิ่มในเร็ว ๆ นี้หรือแผนใหม่อื่นในการหนุนเศรษฐกิจ นับเป็นข่าวที่น่าจะส่งผลเชิงลบทางจิตวิทยาการลงทุน แต่ไม่กระทบพื้นฐานทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
Vajiralux Sanglerdsillapachai

Read more »

Tuesday, April 3, 2012

Gold Price, 3.Apr.2012., 18.40


SupportResistanceNow
Gold Spot                 1665-1672             1684-1697               1677
US$ / TH฿ 30.6-30.6830.83-30.9130.79
Gold Future24340-2446024850-2497024640
Gold Price ทองแท่งปิด24450

 

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,

Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

Comment: แนวรับแนวต้านนี้ใช้ได้ถึงพรุ่งนี้ ครับ ส่วนแนวโน้มในคืนนี้ จากการดู gold spot ยังอยู่บริเวณเดิมเหมือนช่วงเช้าที่ผ่านมา 1672 ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง 0.02 บาท สรุป ผมคิดว่าคืนมีแนวโน้มทางลงเป็นต่อเพียงเล็กน้อย กลยุทธ คือ เล่นอยู่ในกรอบ 1670-1684 ซึ่งการเล่น เข้าซื้อทางขึ้นเมื่อใกล้เส้นล่าง 1670   และ ซื้อทางลงเมื่อเข้าใกล้ 1684 , ส่วนค่าเงินคิดว่าไม่น่าเคลือนไหวมากนัก




Read more »