Wednesday, April 4, 2012

Stock Focus,TOP,4.Apr.2012., 18.00

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


Our greatest glory is not in never falling,
but in rising every time we fall.

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม

แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก


บริษัท ไทยออยล์ จำกัด

(มหาชน) (TOP)

Preview: กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 สูง 6 พันล้านบาท

ปี 2555 คาดว่า TOP มี Upside มากในส่วนของธุรกิจการกลั่น เราคาดการณ์ค่าการกลั่นเฉลี่ยในปี 2555 เท่ากับ 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เฉพาะธุรกิจการกลั่นในไตรมาส 1/55 ถือว่าทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยคือ Real GRM+Stock Gain ทำได้แล้ว 8 เหรียญฯ เราคาดว่าสเปรดพาราไซลีนทรงตัวในระดับที่ดีจะหนุนกำไรช่วง 1H55 ดี แนะนำซื้อ TOP ให้มูลค่าเหมาะสม 84 บาท อิงค่า PER ในปี 2555 ที่ 10เท่า เลือกใช้วิธีนี้แทนที่จะใช้วิธี DCF ซึ่งได้มูลค่า 91 บาท เนื่องจากลักษณะของกำไรเข้าในแต่ละปี และแต่ละไตรมาสยังไม่สม่ำเสมอ มีความเป็นคอมมอดิตี้สูง(ทำให้กำไรผันผวน) แต่ปันผลจูงใจ ในระดับ 5% ต่อปี
คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 6,051 ล้านบาท - 16% YoY แต่ +225% QoQ โดยกำไรสุทธิ GIM หรือ Gross Integrated Margin ในไตรมาสนี้คาดว่าจะสูงถึง 11 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (4Q54 เท่ากับ 6.3 เหรียญฯ และทั้งปี 2554 เท่ากับ 9.3 เหรียญฯ)แยกเป็น 1.Based GRM เท่ากับ 3 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 4/54 ที่ 3.1 เหรียญฯ 2.กำไรสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain) ประมาณ 5 เหรียญฯ(4Q54 เท่ากับ 0.6 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล)คิดเป็นกำไรสต๊อกส่วนนี้คาดว่าจะอยู่ที่ราว 3,416 ล้านบาท เทียบ เป็นส่วนต่างราคาน้ำมันปลายงวด-ต้นงวด สูงถึง 14 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาต้นงวด 106 เหรียญฯ ปลายงวด 120 เหรียญฯ 3.ส่วนต่าง สเปรดอะโรเมติกส์ อีกประมาณ 2 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (4Q54 เท่ากับ 1.7 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล) และค่าการกลั่นของ Lube Base เท่ากับ 1 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงไตรมาส 4/54 Utilization rate โรงกลั่น 100%, พาราไซลีน 108% และ Lube 97% ทั้งนี้ค่าการกลั่นในเดือน มี.ค.ตกมามากเหลือ เพียง 4 เหรียญฯ เพราะเหตุที่อากาศในยุโรปหนาวมาก แต่ไม่หนาวนานทำให้ระยะหลังมี การระบายสต๊อกออกมา น้ำมันเตาธรรมดาที่ไม่ใช่ Premium Grade ราคาทรุดหนัก

ข้อดีในปีนี้ของ TOP คือเราคาด Effective Tax Rate ต่ำเพียง 18% คาดไตรมาส 1/55 นี้ 19.8% เป็นอัตราภาษีที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ ของโรงกลั่นและปิโตรเคมีจาก BOI คาดว่าอาจจะใช้ในไตรมาสนี้ราว 100-200 ล้านบาท จากทั้งหมดที่จะใช้ได้รวมราว 7,000 ล้านบาท ใช้ไปในปีก่อนแล้ว 600 ล้านบาท และ ทยอยใช้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
แนะนำซื้อ โดยให้มูลค่าเหมาะสมที่ 84 บาท คิดตาม PER ที่ 10 เท่า ทั้งนี้เราประเมินราคาเหมาะสมของ TOP ผ่านสองวิธีคือ (1)ประเมินค่า PER 10 เท่าในปี 2555 เท่ากับ 84 บาท (EPS เท่ากับ 8.4 บาทต่อหุ้น) นอกจากนี้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยภาษีเงินได้ ลดลงมาจากฐาน 30% เหลือ 23% และหักลบด้วย Tax Credit จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปิโตรเคมีอีกรวมทั้งปีเราประเมินการใช้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท (2)ประเมิน DCF ปี 2555-2562 ที่ WACC 11.11% ได้มูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 91 บาท เราเลือกใช้ราคาเป้าหมายจากการประเมินในวิธีแรก มองภาพรวมอุตสาหกรรมอาจจะ ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2552 รอดูว่าจะผ่านระดับพีคในปี 2556 ไปได้ดีหรือไม่


วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย

0 comments:

Post a Comment