Tuesday, April 10, 2012

Stock Focus,BANPU,10.Apr.2012., 10.41

 

BANPU เผยปีนี้ไม่ได้รับผลกระทบ

BLCP แต่หากต้องหยุดกระทบกำไร 10%


นายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU) เปิดเผยถึง กรณีที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีได้ทำเรื่องมาถึง กฟผ. เพื่อขอแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หลังผู้จัดหาถ่านหินของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีขอเจรจาเพิ่มราคาขายถ่านหินที่ทำสัญญาไว้ก่อนหน้าว่า ในปีนี้โรงไฟฟ้า BLCP จะยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะผู้จัดหาถ่านหินรายใหญ่ดังกล่าวได้ทำสัญญาส่งมอบถ่านครบทั้งหมดแล้วในปีนี้ แต่หากกรณีที่ผู้จัดหาถ่านรายดังกล่าวหยุดส่งถ่านหินให้บีแอลซีพีก็จำเป็นต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งหาก BLCP หยุดดำเนินการจะมีผลกระทบต่อกำไรของ BANPU กว่า 10% โรงไฟฟ้า BLCP ปีนี้มีถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงครบทั้งหมดแล้วในปีนี้ จึงคาดว่าปี 2555 ไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ BANPU และ EGCO

ความเห็น: BANPU ถือหุ้น BLCP ร่วมกับ EGCO ฝ่ายละ 50% มีกำลังการผลิต 1,434 เมกะวัตต์ ในปี 2555 คาดว่ากำไรสุทธิจะเข้ามาตามเป้าหมาย 2,016 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 10% ของกำไรสุทธิของ BANPU ที่ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และในปีต่อไปจากนี้กำไรของ BLCP มีโอกาสลดน้อยถอยลงได้อีก ทั้งนี้ธุรกิจโรงไฟฟ้า BLCP มีการปันส่วนรายได้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป เนื่องจากเริ่มพ้นปีที่ 5 ของโรงไฟฟ้า การรับรู้กำไรจะลดลงจากเดิมอยู่ที่ประมาณปีละ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ผู้จัดหาถ่านหินรายนี้ (คาดว่าเป็น Rio Tinto) เข้ามาเจรจากับ กฟผ.โดยเจรจาขอเพิ่มราคาถ่านหินเป็นราว 90 เหรียญฯ/ตัน เพื่อให้ cover ต้นทุนและมีกำไรได้บ้าง จากในสัญญาเดิมกำหนดที่ 50 กว่าเหรียญฯ/ตัน ซึ่งราคา 50 เหรียญฯนี้เทียบแล้วต่ำกว่าต้นทุนและต่ำกว่าราคาตลาด เรื่องนี้ต้องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)พิจารณาและเสนอไปถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)

ปัจจุบันผู้จัดหาถ่านหินรายนี้ส่งถ่านให้ 3.6 ล้านตันต่อปี ยังต้องส่งถ่านหินให้ BLCP อีกเกือบ 20 ปี แต่ถ้าต้องหยุดส่งความเสียหายต่อส่วนรวมมาก เพราะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ กรณีที่ BLCP จะไปซื้อถ่านหินจากรายอื่นได้หรือไม่นั้น นายชนินทร์กล่าวว่า ถ้าเราจะต้องไปซื้อจากรายอื่นก็ต้องซื้อที่ราคากว่า 100 เหรียญฯ เพราะราคาตลาดตอนนี้อยู่แถว 109-110 เหรียญฯ แต่ถ้าเจรจากับผู้จัดหารายเดิมนี้ได้แล้วตกลงกันได้ก็ยังจะดำเนินกิจการไปได้อีกเกือบ 20 ปี ต้นทุนก็ต่ำกว่าระบบก็ไม่มีปัญหา

คำแนะนำ: กรณีดังกล่าวจะสร้างความไม่แน่นอนให้กับ BANPU กรณีการรับรู้รายได้จากธุรกิจที่เป็นหลักสำคัญคือไฟฟ้า และโดยเฉพาะ BLCP นั้นในปีที่ผ่านมาพบว่าการ Contribute กำไรให้กับกลุ่ม BANPU มากถึง 1 ใน 3 (ประมาณ 6,000 ล้านบาท จากกำไรสุทธิรวม 18,000 ล้านบาท) แต่ในปี 2555 เป็นต้นไปจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเหลือเพียง 10% ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่จริง Operating Profit ของ BANPU ได้ดีขึ้นจากธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียและออสเตรเลียเป็นหลัก Fair Value จากธุรกิจ BLCP หากต้องหยุดไปจะมีมูลค่ารวม 71 บาทต่อหุ้น จาก Fair Value รวม 762 บาท เราเชื่อว่าสำหรับ BANPU และ EGCO ได้ run โรงไฟฟ้า BLCP และเก็บเกี่ยวกำไรจนคุ้มทุนไปแล้ว แต่ตัวโรงไฟฟ้ายัง Generate รายได้ต่อไปได้อีก เราเชื่อว่าในเวลานี้ กฟผ.เองคงต้องกลับมาพิจารณา PPA ทั้งระบบ เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้าของทั้งประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจาก BLCP ของ BANPU แล้วยังมีโรงไฟฟ้าระยอง และขนอม ของ EGCO ที่ยังมี Overhang เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้งสองใกล้หมดอายุ PPA ในปี 2557 และ 2559 ด้วย คำแนะนำการลงทุนใน BANPU คือรอให้ข่าวดังกล่าวคลี่คลายอย่างมีคำตอบที่ดีก่อนและหาจังหวะทยอยสะสมหุ้น BANPU เนื่องจากนับจากนี้ไปเราซื้อ BANPU เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจ E&P ถ่านหิน ที่มี Gross Margin สูงในระดับ 51% ส่วนของไฟฟ้าจากนี้ไปถือเป็นรายได้เสริม แต่ต้องระมัดระวังว่าหากหยุดการ Operate BLCP ไปเลยจะมีผลขาดทุนเข้ามาจาก Variable Cost ราคาประมาณ 580 บาทถือว่า Reasonable Price ในระยะยาวแล้ว
BY Vajiralux Sanglerdsillapachai

http://veryinvestment.blogspot.com/

0 comments:

Post a Comment