Gold Price,16.Mar.2012.,17.45

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,

ความเครียดเกินทน.....คิดอย่างคนคิดเถิดหนา

ปล่อยวางห่างไกลตา...ใช้ปัญญาค่อยว่ากัน ...

	Support	Resistance	Now
Gold Spot	1522-1532	1549-1562	1536
US$ / TH฿	31.30-31.35	31.45-31.51	31.46
Gold Future	22800-23020	23360-23550	23060
Gold Price	ทองแท่ง	ปิด	22950

Comment: ราคาทองคืนวันนี้ น่าจะมีทางลงเป็นต่อเล็กน้อย เนื่องจาก ระหว่างวันที่ผ่านมาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1527 ณขณะที่เขียนอยู่ที่ 1536  ในส่วนค่าเงินบาท อ่อนค่ามาอยู่ที่ 31.46 ซึ่งก็จะมาช่วยพยุง ราคาทองไทย ระดับหนึ่ง  ดังนั้นสรุป คิดว่าวันนี้ ทางลงเป็นต่อเล็กน้อย ถ้าหลุดแนวรับที่ 1532 ก็ น่าจะลงไปทดสอบ 1522 คือ ลงอีกจาก gold spot 1532 ไป 10 us$ (ประมาณ 150 บาท) *** กรณีผมคาดผิด จุดสังเกต gold psot ทะลุ ผ่าน 1541 ขึ้นไปได้ อาจจะกลับเป็นขึ้นชั้วคราวก่อน เพราะยังเหลือด่านที่สำคัญอีกหลายจุด 1550, 1570, 1590

เอาเม้าชี้ที่กราฟแล้วกด...เพื่อขยายภาพ 

ปัจจัยที่มีผล

ผลการเลือกคัดเลือกประธานกรรมการธปท.คนใหม่ออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย โดยที่ ดร. วีรพงษ์ รามางกูร อดีต รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับเลือกด้วย ะแนนเสียง 6 ต่อ 1 โดยเรามองกรณีนี้จะส่งผลกระทบเชิง บวกต่อ SET Index ในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจาก ดร.วีรพงษ์ มีแนวความคิดกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมตลาดทุนมาโดยตลอด อาทิแนวนโยบาย

     1) การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
     2) นโยบายเงินบาทอ่อนค่า
     3) การจัดตั้งกองทุน Sovereign Wealth Fund

เรามองประเด็นการจัดตั้งกองทุน Sovereign Wealth Fund เป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายที่สำคัญ โดยหากมีการจัดตั้งกองทุนได้จริงก็จะ ทำให้มีการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศบางส่วนออกมาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ซึ่งเราคาดว่าโอกาสที่กระทรวงการคลังจะมีการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 3 เพื่อเป็นแหล่งระดมเงินทุนก็จะมีมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดทุนเพิ่มขึ้นด้วยเรามองการปรับฐานของ SET Index ในครั้งนี้เป็น Healthy Correction เนื่องจากเป็นการปรับฐานที่เกิดขึ้นท่ามกลางการปรับเพิ่มขึ้น ของประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยล่าสุดประมาณการ EPS growth ของ SET Index ในปีนี้อยู่ที่ 28.3% เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่ 26.3% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากเริ่มมีการทยอยประกาศผล ประกอบการ ไตรมาสที่ 1 ออกมา