Monday, April 2, 2012

Stock Focus,SCC,2.Apr.2012., 10.55

 



Lose your dreams
and you will lose your mind.
หากคุณทำความฝันหล่นหาย ความคิดของคุณก็จะหายไปด้วย

บมจ .ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)

ขยายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจกระดาษ และ ปิโตรฯ ขยายลงทุนเพิ่ม 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น 400 ล้านบาท ซื้อหุ้นในบริษัทตะวันนา บรรจุภัณฑ์จำกัด และ 630 ล้านบาท ร่วมลงทุนกับ Mitsui Chemicals เพื่อผลิต สินค้าขึ้นรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูง LLDPE ตัวเลขลงทุนเพิ่ม 1 พันล้านบาท ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเป้าลงทุนในปีนี้ 3 หมื่นล้านบาท คาดจะมีการประกาศข่าวเกี่ยวกับ การลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีเงินสดในมือถึง 50,288 ล้านบาท และ คาดจะสร้างกระแสเงินสดในรูป EBITDA ต่อปี ในช่วง 3 ปีนี้ประมาณ 4.5-6 หมื่น ล้านบาท ทำให้ SCC ตั้งเป้าจะลงทุน 150,000 ล้านบาท ใน 5 ปีนี้ หรือ เฉลี่ย 3 หมื่นล้านบาทต่อปี เราคาด SCC มีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว จากเก็บ เกี่ยวผลลงทุนสูงในอดีต ขยายการลงทุนต่อเนื่อง เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน แนะนำ ซื้อ ช่วงอ่อนตัว จากไตรมาสแรกจะไม่ดี ราคาเป้าหมาย 390 บาท

ลงทุนเพิ่ม 400 ล้านบาท ซื้อหุ้นในบริษัทตะวันนาบรรจุภัณฑ์จำกัด : บมจ. ปูนซิ เมนต์ไทย (SCC) ได้แจ้งต่อตลาดฯ ระบุว่า บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์จำกัด หรือ TCG ได้มีการลงนามในสัญญาเข้าซื้อหุ้นในบริษัทตะวันนาบรรจุภัณฑ์จำกัด จำนวน 2,160,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของหุ้นทั้งหมด โดยคิดเป็นเงินลงทุนในหุ้น ประมาณ 400 ล้านบาท โดยบริษัทตะวันนาบรรจุภัณฑ์จำกัด หรือ (TCC) เป็นผู้ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษ ลูกฟูกและแผ่นกระดาษลูกฟูกในประเทศ ไทย มีกำลังการผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูกประมาณ 61,000 ตันต่อปี การเข้าลงทุนใน TCC นีจะทำให้TCG มีกำลัง การผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูกรวมประมาณ 855,000 ตันต่อ ปี หรือ ปรับเพิ่มขึ้น 7.7% จากกำลังการผลิตปัจจุบัน 794,000 ตันต่อปี
SCC และ Mitsui Chemicals ร่วมกันผลิตสินค้าขึ้นรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูง :
SCC ได้ ประกาศเข้าร่วมลงทุนกับ Mitsui Chemicals Tohcello หรือ MCTI ในการจัดตังบริษัท Siam Tohcello หรือ STC เพื่อดำเนินการผลิตฟิล์มพลาสติกที่มีความแข็งแรงสูง มูลค่า เงินลงทุนรวม 1,400 ล้านบาท โดย SCG Chemicals มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 45 ขณะที่ MCTI จะถือหุ้นส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 55 มีกำลังการผลิตฟิล์มพลาสติก LLDPE (สินค้าขึ้นรูป) ทั้งสิ้น 15,000 ตันต่อปี ทั้งนี้โครงการดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการผลิตเชิง พาณิชย์ได้ภายในต้นปี2557 ฟิล์มพลาสติก LLDPE ของ STC นั้น(เครื่องหมายการค้า T.U.X.) เป็นฟิล์มพลาสติกชั้นซีลชนิดพิเศษ ซึ่ง ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อาหาร โดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากสำหรับมาตรฐานในการเก็บ รักษาอาหาร ให้ปลอดภัยและถูกสุขอนามัยกับผู้บริโภคและผู้กระจายสินค้า
รวม 2 โครงการใช้เงิน 1 พันล้านบาท เป้าปีนี้ลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท :
เงินลงทุนใน 2 โครงการดังกล่าวข้างต้นประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ มากนักเมื่อเทียบกับเป้าลงทุนในปีนี้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ตั้งเป้าลงทุน 150,000 ล้านบาท ใน 5 ปีนี้ เน้นภูมิภาคอาเซียน:
กระแสเงินสด ในรูป EBITDA ของ SCC ประมาณ 4.4-6 หมื่นล้านบาทต่อปี และ ณ สิ้นปี 2554 มี เงินสดในมือถึง 50,288 ล้านบาท ดังนั้น SCC จึงประกาศแผนการลงทุน โดยตั้งเป้า ลงทุน 150,000 ล้านบาท ใน 5 ปีนี้ หรือ ใช้ลงทุนตกเฉลี่ยปีละ 30,000 ล้านบาท โดย การลงทุนของ SCC จะเน้นลงทุนในภูมิภาคอาเซียซึ่งมีศักยภาพที่จะเติบโตสูง ปัจจุบัน SCC ได้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ของกลุ่มประเทศอาเซียนรวมทั้งหมด 50,300 ล้านบาท คิดเป็น สัดส่วน 13% ของสินทรัพย์รวม และ ในปี 2554 ที่ผ่านมา SCC มี
ยอดส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 29%ของยอดขายรวม โดยเฉพาะตลาดอาเซียมีสัดส่วนสูง ถึง 39% ของยอดส่งออกรวม
ระยะสั้นถูกกดดันจากสเปรดปิโตรเคมีต่ำ คงคำแนะนำ ซื้อ ในช่วงอ่อนตัว :
สเปรดธุรกิจปิโตรเคมีในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ คือ HDPE-Naphtha อยู่ที่ 391 เหรียญ/ตัน เทียบกับเฉลี่ยในไตรมาสสี่เท่ากับ 441 เหรียญ/ตัน และ PP-Naphtha ปัจจุบันอยู่ที่ 533 เหรียญ/ตัน เทียบกับเฉลี่ยในไตรมาสสี่เท่ากับ 535 เหรียญ/ตัน จะ กดดันผลประกอบการในไตรมาสแรกให้ไม่โดดเด่น แต่เรายังมอง SCC มีแนวโน้มจะ เติบโตในระยะยาว จากเก็บเกี่ยวผลลงทุนสูงในอดีต เงินสดในมือและกระแสเงินสดสูงขยายการลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงคาดจะจ่ายเงินปันผลเป็นอัตราที่สูงขึ้น คาดอัตราการ จ่ายเงินปันผลจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% ของกำไร จากอดีต 40% ของกำไร ปีนี้คาดเงิน ปันผลจะเพิ่มขึ้นเป็น 14 บาทต่อหุ้น จากปีก่อน 12.5 บาทต่อหุ้น ดังนั้น เราคง คำแนะนำ ซื้อ โดยควรรอจังหวะช่วงอ่อนตัว เนื่องจากผลประกอบการไตรมาสแรกจะ ยังไม่ดี ประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 390 บาท บนฐาน Forward Median P/BV
เท่ากับ 3.00 เท่า
สุรชัย ประมวลเจริญกิจ

 

0 comments:

Post a Comment