Tuesday, March 20, 2012

Stock Focus,KSL,19.Mar.2012.,

Our greatest glory is not in never falling, but in rising every time we fall.
เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้มาจากการที่เราไม่เคยล้ม
แต่มาจากการลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้มต่างหาก

บมจ. น้ำตาลขอนแก่น (KSL)

KSL มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 (สิ้นสุด 31 ม.ค. 55) เท่ากับ 416 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นถึง 188% YoY เนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโครงการบ่อพลอยทั้ง 2 เฟส ทำให้ปริมาณขายน้ำตาลทราย เอทานอลและไฟฟ้า เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯจากปีที่แล้ว โดยแนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องถึง 3Q55 เพราะมีจะอ้อยเข้าหีบและส่งออกน้ำตาลทรายจำนวนมาก

􀂃 กำไรสุทธิ 1Q55 ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรายไตรมาส 1 จากโครงการบ่อพลอยเดินเครื่องผลิตเต็มที่ : KSL ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 (สิ้นสุด 31 .. 55) เท่ากับ 416 ล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงกับ 4Q54 แต่ปรับตัวสูงขึ้นถึงเกือบ 2 เท่าตัวจาก 1Q54 เนื่องจากการเดินเครื่องผลิตของโครงการบ่อพลอยทั้ง 2 เฟส ทำให้ปริมาณขายน้ำตาลทรายในงวดนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาสู่ระดับ 1.63 แสนตัน ส่วนปริมาณขายเอทานอลปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2 เท่าตัวจาก 1Q54 มาสู่ระดับ 20.7 ล้านลิตร โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกเอทานอลไปในตลาดภูมิภาคอาเซียน ในขณะที่ปริมาณขายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว สู่ระดับ 8.5 เมกะวัตต์-ชั่วโมงในงวดนี้ส่งผลให้ยอดขายรวมใน 1Q55 เติบโตสูงถึง 88% YoY ด้าน Gross Margin อยู่ที่ 28.3% ปรับตัวดีขึ้นจาก 26% ใน 1Q54 โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิ 1Q55 คิดเป็นสัดส่วนราว 19.1% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2554/55

􀂃 ทิศทางกำไรสุทธิเป็นขาขึ้นต่อเนื่องถึงไตรมาส 3/55 : เนื่องจากช่วงไตรมาส 2-3 เป็นช่วงที่มีผลผลิตอ้อยเข้าหีบจำนวนมาก และมีรอบการส่งออกน้ำตาลทรายใน 2 งวดดังกล่าวมากที่สุดของปี จึงทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีใน 2Q-3Q55 ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2554/55-56 ไว้ที่ 2,177 ล้านบาท และ 2,458 ล้านบาท หรือเติบโตในระดับสูง 15% YoY และ 13% YoY ตามลำดับ ซึ่งได้รับผลบวกจากการเดินเครื่องผลิตเต็มที่ของโรงงานบ่อพลอย ซึ่งทำให้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 2554/55 เพิ่มขึ้น 14.7% YoY สู่ระดับ 7 ล้านตัน (ปัจจุบัน วันที่ 15 มี.. 55 มีผลผลิตอ้อยเข้าหีบแล้ว 6.56 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 93.7% ของที่ KSL คาดไว้) ส่วนธุรกิจเอทานอลคาดว่าปริมาณขายทั้งปี 2554/55 จะปรับตัวสูงขึ้นถึง 2 เท่าตัวสู่ระดับ 90 ล้านลิตร ในขณะที่ธุรกิจน้ำตาลทรายในลาวและกัมพูชาคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้ในปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากผลผลิตต่อไร่ในการปลูกอ้อยเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง ด้านโครงการลงทุนโรงงานน้ำตาลทรายที่จ.เลย ซึ่งคาดว่าจะทดลองเดินเครื่องผลิตได้ในม.. 2556 จะเป็นการต่อยอดฐานรายได้และกำไรของ KSL ให้สูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

􀂃 โดดเด่นกว่าคู่แข่ง : แม้ว่า KSL มี Valuation ที่แพงกว่า แต่เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลาย บวกกับการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างการเติบโตของกำไรในระยะยาวได้ต่อเนื่อง (เราคาดว่ากำไรสุทธิในช่วง 2 ปีข้างหน้าของบริษัทฯจะเติบโตราว 11.7% CAGR) ทั้งนี้เราคงคำแนะนำซื้อ KSL โดยกำหนดราคาเหมาะสมปี 2554/55เท่ากับ 17.60 บาท อิงวิธี DCF

วีรพัฒน์ วงศ์อุไร

0 comments:

Post a Comment