Stock Focus,PTTEP,TICON,BANPU,TTCL,AMATA, 24.Feb.2012.,9.35

PTTEP, TICON, BANPU, TTCL, AMATA

เก่ง และ แกร่ง

ตลาดหุ้นไทยปรับฐานระหว่างวันและยังคงปิดในแดนบวก โดยเราเชื่อว่าตลาดจะพยายามขึ้นทะลุ High เดิมได้ในรอบ 1-2 เดือนนี้ แม้จะเป็นช่วงประกาศงบการเงิน และมีหลายบริษัทที่รับผลกระทบเชิงลบจากภาวะน้ำท่วม แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าจะทำกำไรกลับคืนได้ในช่วงไตรมาส 1/55 เช่น TICON ส่วนธุรกิจหลักทรัพย์ประกาศงบการเงินรายปีออกมาดี พร้อมประกาศจ่ายปันผลที่มี yield สูง คิดเป็นเกือบ 100% ของกำไรสุทธิ ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่เรายังนิยม PTTEP, BANPU, PTT ซึ่งวันนี้ได้รับอานิสสงค์จากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ดัชนีระยะสั้น แม้น่ากังวลเพราะขึ้นมาสูงแล้ว แต่เรายังเชื่อว่ามีปัจจัยบวกรอให้หุ้นปรับตัวขึ้นไปต่อได้ เช่นพลังงาน สื่อสาร ค้าปลีก

ปัจจัยวันนี้:

(+/-) STA วันนี้จะประกาศงบการเงินปี 2554 เราคาดการณ์ไว้เดิมว่ามีกำไรต่ำมากในไตรมาส 4/54 แต่หลังปิดสิ้นปี มีแนวโน้มว่าไตรมาส 4/54 อาจออกงบการเงินเป็นขาดทุนอย่างค่อนข้างมีนัยยะ ต่อผลการดำเนินงานปี 2554 แต่เราก็ยังคงเชื่อว่าเป็นผลจากการขาดทุนสต๊อกยางพารา ซึ่งไตรมาส 1/55 เห็นราคายางพาราขึ้นมายืนเหนื่อ 120 บาท ต่อ กก.ได้ตั้งแต่รัฐบาลไทยประกาศตั้งงบซื้อยางและชี้นำราคายาง เราเชื่อว่าผลที่ทำขาดทุนในไตรมาส 4/54 สามารถคืนกลับได้ในไตรมาส 1/55 เราแนะนำซื้อ STA เมื่อราคาอ่อนตัวต่ำกว่า 21 บาท หลังการประกาศงบในวันนี้

(+)TTCL ผลประกอบการดีมาก กำไรสุทธิ 403 ล้านบาท หรือ 0.83 บาทต่อหุ้น ประกาศจ่ายปันผล 2H54 เท่ากับ 0.25 บาท แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16 บาท

(+/-)รัฐบาลจีนคาดเศรษฐกิจปี 55 ขยายตัว 8.5% ชะลอตัวจากปีที่แล้ว:คณะรัฐมนตรีจีน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.5% ในปี 2555 ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 9.2% ในปี 2554 เนื่องจากจีนได้รับแรงกดดันค่อนข้างมากจากสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันเขาคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของจีนจะขยายตัวช้าลงแตะ 10% ในปีนี้ จาก 20.3% ในปีที่แล้ว เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซบเซาอันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้าและวิกฤตหนี้สินในยุโรป

(+)น้ำมันดิบ WTI พุ่ง 1.55 เหรียญฯ ทำนิวไฮ 9 เดือนจากวิตกอิหร่าน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้นและยูโรซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ที่ 1.3335 ดอลลาร์ โดยตลาดขานรับข้อมูลที่แสดงว่า ภาพรวมการจ้างงานในสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ลดสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ในขณะที่ข้อมูลอ่อนแอลงในตลาดน้ำมันสหรัฐฯ  สต็อคน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระบุถึงการเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล

แม้ว่าการใช้ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงยังคง"อ่อนแอมาก" แต่ความวิตกเกี่ยวกับอิหร่านทำให้เทรดเดอร์ไม่คิดว่าราคาจะร่วงลง

(+)IRPC: ประกาศขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/54 เท่ากับ 2,195 ล้านบาท แยกเป็นขาดทุนจากการดำเนินงานเท่ากับ 992 ล้านบาท ขาดทุนสต๊อกน้ำมันและการทำ Hedging เท่ากับ 1,040 ล้านบาท และรายการพิเศษอื่นอีก 163 ล้านบาท ทำให้โดยรวมทั้งปี 2554 เหลือเป็นกำไรสุทธิรวมเพียง 4,107 ล้านบาท ลดลง 32% YoY ซึ่งแยกเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 2,214 ล้านบาท กำไรจากสต๊อกน้ำมันและการทำ Hedging  เท่ากับ 2,351 ล้านบาท และขาดทุนจากรายการพิเศษอื่นเท่ากับ 458 ล้านบาท   กำไรสุทธิของ IRPC มักดีในงวด 1H และอ่อนแอลงถึงขั้นติดลบในช่วง 2H ของปี การที่ IRPC เผชิญผลขาดทุนมหาศาลในช่วงไตรมาส 4/54 นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน และหยุดซ่อมบำรุง Major Turnaround โดยธรรมชาติเชื่อว่างบจะกลับมาดีมากในช่วงไตรมาส 1/55 เราประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ไว้ที่ 5,581 ล้านบาท เติบโต 81% YoY (ประมาณการต่ำในเชิง Conservative ไว้ เชื่อว่าตามกำลังการผลิตที่มีควรทำกำไรได้ปีละ 6,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เราประเมินมูลค่าเหมาะสมตาม DCF เท่ากับ 5.1 บาท แนะนำซื้อถึงราคาเป้าหมาย  

by Vajiralux Sanglerdsillapachai