Thursday, April 19, 2012

Business News,ส่งออก ASEAN เกิน 2 แสนล้านบาท

สถาบันอาหารคาดส่งออก ASEAN เกิน 2 แสนล้านบาท

สถาบันอาหารคาดส่งออก ASEAN เกิน 2 แสนล้านบาท โดยเผยว่าปี 2554 ไทยส่งออกอาหารมูลค่า 964,500 ล้านบาท โดยตลาดอาเซียนเป็นตลาดอันดับ 1 ของมูลค่าการส่งออก 198,953 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของการส่งออกอาหารทั้งหมด คาดว่าปี 2555 การส่งออกอาหารไทยจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาทและมีการส่งออกอาเซียนไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท เนื่องจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้ว การค้าขายกันเองในอาเซียนขยายตัวมากขึ้น โอกาสการส่งออกจากไทยไป ASEAN ในอนาคตจะเพิ่มเป็น 25% ภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีการร่วมมือกันผลิตสินค้าอาหารเพื่อส่งออกนอก ASEAN มากขึ้นเช่น จีน สหรัฐ โดยไทยจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของ ASEAN เพราะมีมาตรฐานการผลิตสูงและ สินค้าที่ร่วมกันผลิตจะทำให้ไทยมีวัตถุดิบในการผลิตมาก คือ ปาล์มน้ำมัน ประมง
AEC จะสร้างโอกาสให้กับผู้ส่งออกรายใหญ่แต่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตอาหาร SME โดยไทยมี SME 4,000 ราย เพราะสินค้า SME ส่วนใหญ่จะขายในพื้นที่และใช้ประโยชน์จากการใช้วัตถุดิบร่วมกันลำบาก ซึ่งในปี 2555 จะได้รับงบประมาณ 75 ล้านบาทเพื่อยกระดับขีดความสามารถการผลิตให้ SME เผยปัญหาขาดแคลนแรงงานของไทย ไม่น่าจะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะคาดว่าผู้ประกอบการจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตมากขึ้น และเชื่อว่า 5 ปี ผู้ผลิตอาหารของไทยยังคงใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลัก

ความเห็น: ปัจจัยดังกล่าวน่าจะหนุนธุีรกิจส่งออกอาหารของไทย ตั้งแต่ CPF, TUF, CFRESH, SSF, ASIAN ฯลฯ

Read more »

Gold Price, 18.Apr.2012., 9.58


บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,




Life isn't about finding yourself.
Life is about creating yourself.
ชีวิตไม่ใช่การค้นหาตัวตนของเราเอง
แต่มันคือการสร้างตัวตนของเราเองขึ้นมาต่างหาก

SupportResistanceNow
Gold Spot                 1627-1636             1648-1651               1641
US$ / TH฿ 30.8-30.86330.92-3130.89
Gold Future23900-2406024300-2444024170
Gold Price ทองแท่งปิด24100

Comment: ราคาทองในช่วงวันนี้ คิดว่ายังคงเล่นในกรอบ gold spot 1641-1660  ส่วนค่าเงินบาท อ่อนค่ามาอยู่ที่ 30.89 ซึ่งหนุนราคาทองไทย ดังนั้นสรุป คิดว่าวันนี้เราซึ้อทางขึ้นเพื่อหวังการดีดกลับน่าสนใจเล่นเก็งกำไรครับ ถ้า ราคาเปิด ต่ำกว่า 24220 น่าเข้าซื้อทางขึ้นครับ กลยุทธ หาจังหวะ ขายทำกำไรออก แถว 24450 หรือ ซื้อทางขึ้นเมื่อลงมาต่ำกว่า 24220 ลงไป โดยเฉพาะ ถ้าลงถึง 24120 น่าลองเล่นเด้งครับ








Read more »

Wednesday, April 18, 2012

Stock Tomorrow,STEC,ROJNA,PF,19.Apr.2012

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

SupportResistanceNow
STEC                  13.3-13.7             14.1-14.6               13.9
ROJNA 7.25-7.458.05-9.17.65
PF1.25-1.281.37-1.461.31

Comment: ตลาดวันนี้ปิดที่ 1168.05 จุด บวก 7.82 จุด ปริมาณซื้อขาย 23696.21 ล้านบาท หุ้นที่ให้สามารถเล่น ลงทุน พร้อมทั้งเก็งกำไรได้ ครับ



Read more »

Gold Price, 10.Apr.2012.,18.05


บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

SupportResistanceNow
Gold Spot                 1631-1641             1662-1670               1646
US$ / TH฿ 30.69-30.7430.86-30.9130.77
Gold Future23900-2410024480-2453024200
Gold Price ทองแท่งปิด24100

Comment: ราคาทองในช่วงคืนนี้ คิดว่ายังคงเล่นในกรอบ gold spot 1641-1660  ส่วนค่าเงินบาท อ่อนค่ามาหนุนราคาทองไทย ดังนั้นสรุป คิดว่าวันนี้ทางลงเป็นต่อเพียงเล็กน้อย (ราคาเปิด สูงกว่า 24250 ) กลยุทธ หาจังหวะ ขายทำกำไรออก แถว 24450 หรือ ซื้อทางขึ้นเมื่อลงมาต่ำกว่า 24200 ลงไป โดยเฉพาะ ถ้าลงถึง 24120 น่าลองเล่นเด้งครับ









Read more »

Stock Focus,BSBM,18.Apr.2012., 14.22

บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

BSBM (ถือ)

Key Takeaway จากการพบผู้บริหาร

  • คาดผลประกอบการไตรมาส 1/55 จะมีกำไรเพียง 1 ล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 1 ล้านบาท แต่แย่ลงมากจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 59 ล้านบาท เนื่องจากภาวะความต้องการเหล็กเส้นที่ค่อนข้างซบเซา ราคาขายอ่อนตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ Billet ทรงตัว
  • สถานการณ์ยอดขายเหล็กเส้นในไตรมาสแรกไม่ได้ดีขึ้น ตามที่คาดหวังว่าจะได้อานิสงส์จากการบูรณะซ่อมแซมหลังน้ำท่วม และ แม้ว่าจะเป็นช่วงไฮซีซั่น โดยปริมาณขายเหล็กเส้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 23,726 ตัน (+61%qoq, -35%yoy) ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับกำลังการผลิต 720,000 ตัน ต่อปี หรือ คิดเป็น 180,000 ตันต่อไตรมาส
  • จากความต้องการที่ต่ำ ทำให้ราคาขายเหล็กเส้นเกรดทั่วไปอ่อนตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคาขายเฉลี่ยประเมินจะอ่อนตัวลงเหลือ 22,800-22,900 บาท/ตัน จากราคาเฉลี่ยในไตรมาสก่อนอยู่ที่ 23,000 บาท/ตัน ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ Billet ค่อนข้างทรงตัวที่ 640-650 เหรียญ/ตัน ทำให้สเปรด ระหว่างราคาขาย และ Billet อยู่ในระดับต่ำเพียง 2,933 บาท/ตัน ซึ่งเป็นระดับเพียงคุ้มทุนเท่านั้น
  • แนวโน้มในระยะใกล้ยังไม่มีสัญญาณกระเตื้องขึ้นมากนัก โดยความต้องการยังต่ำ และ ในไตรมาส 2/55 จะเข้าสู่ช่วงโลซีซั่น ทำให้คาดหมายแนวโน้มผลประกอบการจะเพียงเป็นจุดคุ้มทุน หรือ มีกำไรเล็กน้อย จากราคาขายเฉลี่ยปัจจุบันปรับขึ้นจากไตรมาสแรกเล็กน้อย ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ Billet ค่อนข้างทรงตัวที่ 640-650 เหรียญ/ตัน
  • อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันที่ 1.30 บาท ซื้อขายบนการคาดหวังที่ต่ำอยู่แล้ว เพราะ ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นที่ 1.70 บาท ดังนั้น เราคงคำแนะนำ ถือ
  • Read more »

    Stock Focus,IVL,18.Apr.2012.,

    บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

    เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


    ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

    บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)

    Preview: คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1/55

    เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/55 ออกมายังไม่ดีอย่างโดดเด่น ต้องหวังเห็น พัฒนาการของกำไรที่ดีในช่วงที่เหลือของปี 2555 ดังนั้นระดับกำไรสุทธิที่ 14,999 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.37 บาท จึงอาจถูกมองว่าเสี่ยงจะไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่เรายังเชื่อว่ากำไร IVL ยังมีการฟื้นตัวต่อ เราคาดกำไรจากการดำเนินงาน 12,924 ล้านบาท ในปี 2555 เติบโต 27% YoY ถือว่ามีพัฒนาการดี อีกทั้งยังมองกำไรปี 2556 เท่ากับ 18,247 ล้านบาท หรือ 4.11 บาทต่อหุ้น โต 41% เราจึงคงเป้าหมายกำไรสุทธิคิดตามค่า PER 12-13 เท่าในปี 2555 ที่ 42.50 บาท ปรับเปลี่ยนคำแนะนำจากซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเป็นซื้อ เนื่องจากราคาหุ้นในโซน 32-35 บาท มี Discount จากราคา Fair Value มากพอที่จะถือลงทุนในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2555 ซึ่งเรามองว่าสเปรดน่าจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นไป
  • คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 2,031 ล้านบาท: ถือเป็นกำไรที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/54 ที่ขาดทุน 1,458 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับระดับกำไรที่ IVL เคยทำได้สมมติฐานเราคือสเปรด 500 เหรียญฯ ต่อตัน น่าจะได้กำไรในระดับ 3,500-3,800 ล้านบาทต่อไตรมาส โดยในไตรมาสนี้จะมีกำไรพิเศษจากเงินชดเชยประกันภัยความเสียหายจากโรงงานที่ลพบุรีเข้ามาประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 31 ล้านบาท และคาดว่า
    จะมีการบันทึกกำไรสต๊อกสินค้าอีกราว 300 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานปกติคาดว่าอยู่ที่ระดับเพียง 1,700 ล้านบาท กำไรสุทธิดังกล่าวคิดเป็นเพียง 13.5% ของกำไรสุทธิรวมทั้งปีที่คาดไว้ 14,999 ล้านบาท (กำไรจากการดำเนินงานปี 2555 คาดไว้ 12,924 ล้านบาท และคาดว่ารับรู้กำไรพิเศษจากการได้รับเงินประกันชดเชยภาวะน้ำท่วม และเงินชดเชยความเสียหายจากเหตุหยุดการผลิตรวมราว 2,066 ล้านบาท ทยอยรับรู้เข้ามาตลอดทั้งปี 2555
  • ปริมาณขายและสเปรดในไตรมาส 1/55: ปริมาณขายในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านตันเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/54 ที่ 1.05 ล้านตัน โดยทั้งปีที่บริษัทตั้งเป้าหมายการขายในปี 2555 เท่ากับ 5.5 ล้านตัน เทียบกับปริมาณขายที่ 4.4 ล้านตัน ในปี 2554 สเปรดของผลิตภัณฑ์ PTA+PET ยังคงน่าหนักใจในไตรมาส 1/55 เพราะร่วงต่อเนื่องจากไตรมาส 4/54 ที่ลดต่ำลงเหลือ 427 เหรียญฯ ต่อตัน (PTA+PET เท่ากับ 250+177 เหรียญฯ ต่อตัน) ส่วนไตรมาส 1/55 ลงต่ำไปอีกอยู่ที่ราว 420 เหรียญฯ ต่อตัน(PTA+PET อยู่ราว 230+190 เหรียญฯ ต่อตัน) แม้ปริมาณการขายเพิ่ม แต่สเปรดที่อ่อนแอส่งผลให้ EBITDA Margin ในไตรมาส 1/55 อ่อนแอ อย่างไรก็ตามเรามีระดับคาดการณ์สเปรดทั้งปี 2555 ไว้ที่ 500 เหรียญฯ ต่อตัน ยังเชื่อว่าในไตรมาสถัดไปของปี สเปรดสูงขึ้น รวมถึงกำไรสุทธิจะดีขึ้นมายืนได้ราว 3,500-3,800 ล้านบาทต่อไตรมาส อีกทั้งการที่ IVL จะเริ่มรับรู้รายได้และ กำไรจาก MEG ที่เพิ่งซื้อ Old World ในสหรัฐฯ เข้ามาจะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็น ต้นไป เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิช่วง 2H55 จะเกินระดับ 4,000 ล้านบาทต่อไตรมาสได้
  • แผนการผลิตของ IVL: ระยะสั้นกำลังการผลิตที่ลพบุรีจะกลับมาเริ่มผลิตได้ พ.ค.55 นี้กำลังการผลิตของบริษัททำขวด (ส่วนน้อยของรายได้) กลับมาในเดือน มิ.ย.-ก.ค.55 และกำลังการผลิตของส่วนเท็กซ์ไทล์ จะกลับมาในเดือน ต.ค.55 กำลังการผลิตรวม(Nameplate Capacity) ในมือ ณ สิ้นปี 2555 จะเท่ากับ 7.5 ล้านตัน และสิ้นปี 2556 เป็น ต้นไปจะมี 8.27 ล้านตัน เทียบกับสิ้นปี 2554 มีรวม 6.0 ล้านตัน (คือรวมรายการที่ซื้อกิจการไปเมื่อต้นปี 2555 รวม Old World ด้วยแล้ว) แผนอนาคตข้างหน้า IVL จะทำกิจการที่เป็น Green Field ในตะวันออกกลางสำหรับโครงการ PX/PTA/PET(รอตัดสินใจปี 2556) และโครงการ Ethylene/EO/MEG ในสหรัฐฯ (คาดว่ารอปี 2558 จึงตัดสินใจ) 
  • วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย

    Read more »

    Stock Focus,SSI,18.Apr.2012.,

     


    บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

    เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


    ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

    บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI)

    SSI-UK เริ่มจุดไฟเตาถลุงแล้ว

    โรงถลุงเหล็กที่อังกฤษ SSI-UK ได้จัดพิธีการจุดเตาถลุงเหล็ก Redcar โรงงาน SSI Teesside ขึ้นเมื่อวัน 15 เมษายน 2555 ซึ่งมีความล่าช้ามาต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2554 คาดช่วงแรกการผลิตต้นทุนต่อหน่วยจะสูงกว่าปกติ จาก SSI ยังต้องรับภาระ ค่าใช้จ่ายของพนักงานของ SSI-UK ที่อังกฤษที่สูง รวมถึงภาระดอกเบี้ย จึงทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 1/55 จะยังขาดทุนหนัก และ จะส่งผลต่อเนื่องไตรมาส 2/55 จะยังขาดทุน แต่ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายแบบมีส่วนลดจากมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น ปี 2554 ซึ่งอยู่ที่1.31 บาท มาก คงคำแนะนำ ถือ ประเมินราคาเป้าหมาย 1 บาท
  • SSI เริ่มผลิตโรงถลุงเหล็ก Redcar Blast Furnace ที่โรงงาน SSI Teesside แล้ว:
    บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสทรี (SSI) ได้แจ้งข่าวผ่านเวบไซต์บริษัท ระบุว่า โรงถลุงเหล็กที่อังกฤษ SSI-UK ได้จัดพิธีการจุดเตาถลุงเหล็ก Redcar โรงงาน SSI Teesside ขึ้นเมื่อวันที่15 เมษายน 2555 เตาถลุงซึ่งได้หยุดดำเนินการผลิตมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2553 หรือ 26 เดือนก่อน ได้ถูกเติมวัตถุดิบ อาทิ แร่เหล็กและถ่านโค้ก และได้ถูกจุดไฟให้เกิดการเผาไหม้โดยก๊าซร้อนที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส โดยในเวลาอีกไม่กี่วันน้ำเหล็กดิบก็จะมาถึงหน่วยผลิตเหล็กกล้าและจะได้รับการหล่อเป็นเหล็กแท่งแบนแท่งแรก
  • คาดจะต้องใช้เวลาถึงไตรมาสสี่ จึงจะเริ่มผลิตเต็มประสิทธิภาพ: SSI-UK เป็นโรง
    ถลุงขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิต 3.6 ล้านตัน ซึ่งจะส่งวัตถุดิบ Slab ให้ SSI ประมาณ 2 ใน3 และ อีก 1 ใน 3 จะขายให้บริษัทั่วไป โดยก่อนหน้านี้ กำหนดการเดิม SSI-UK จะเริ่มผลิตในเดือน ธ.ค. 2554 โดยตั้งเป้าจะผลิต 3.3 ล้านตันในปี 2555 (แบ่งเป็น 0.7 ล้านตันใน1Q55, 0.8 ล้านตันใน 2Q55, 0.9 ล้านตันใน 3Q55 และ 0.9 ล้านตันใน 4Q55) แต่มีความล่าช้าออกไปร่วม 4 เดือน ดังนั้น เราคาดจะต้องใช้เวลาถึงไตรมาสสี่จึงจะเริ่มผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ จะทำให้ SSI ยังต้องรับภาระ ค่าใช้จ่ายของพนักงานของ SSI-UK ที่อังกฤษที่ค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานอยู่ 1,700 คน และ จะเพิ่มเป็น 1,800 คน ในอนาคตรวมถึงภาระดอกเบี้ย และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จึงทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 1/55 และ 2/55 จะยังขาดทุนหนักต่อเนื่องจากครึ่งหลังของปี 2554
  • แนะนำ ถือ ประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 1 บาท : ราคาหุ้น SSI ปัจจุบันที่ 0.75 บาท ซื้อขายแบบมีส่วนลดจากมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น ปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 1.31 บาท เป็นอย่างมาก หรือ มีค่า P/BV ต่ำเพียงเพียง 0.57 เท่า โดยผลประกอบการที่คาดจะขาดทุนหนักต่อในไตรมาส 1/55 และ คาดจะยังขาดทุนต่อเนื่องใน ไตรมาส 2/55 รวมถึงภาวะที่ซบเซาของหุ้นในกลุ่มเหล็กทั่วโลก ทำให้ยังไม่น่าสนใจ เราคงคำแนะนำ ถือ ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 1 บาท บนฐาน Forward P/BV เท่ากับ 0.8 เท่า โดยให้ส่วนลดจากเฉลี่ย Forward P/BV ในอดีตเท่ากับ 0.92 เท่า
  • สุรชัย ประมวลเจริญกิจ

    Read more »

    Stock Focus,CK,18.Apr.2012.,

     


    บทความ 2011 , บทความ 2012 , กรูหุ้น 1000 ล้าน,

    เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ ,


    ถ่าน" ทำให้ นาฬิกา "เดินไป" ... "กำลังใจ" ทำให้ คน"เดินต่อ

    บมจ. ช. การช่าง (CK)

    แจ้งการลงนามก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี

    แจ้งการลงนามสัญญาจ้างกับบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด มูลค่าโครงการรวม 76,000 ล้านบาท ทำให้งานในมือ ปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็น สูง 119,933 ล้านบาท และคาดจะได้งานขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีก เนื่องจากในอนาคตจะมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่างๆอีกมาก สนับสนุนการเติบโตในและ CK Power กำลังปรับโครงสร้างเตรียมเข้าตลาดปี 2555 ช่วยเพิ่มมูลค่าราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขาย P/E ปี 2555 ค่อนข้างสูงเท่ากับ 34.8 เท่า รวมถึงมีภาระหนี้สุทธิต่อทุนที่สูงเท่ากับ 2.78 เท่า แต่เนื่องจากมีประด็นข่าวในด้าน บวกชนะประมูลโครงการต่างๆ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 9 บาท
  • แจ้งการลงนามสัญญาจ้างกับบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด: บมจ. ช. การช่าง(CK) ได้แจ้งต่อตลาดฯ เช้านี้ระบุว่า บริษัท ช.การช่าง (ลาว) จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ลงนามในสัญญา Engineering, Procurement and Construction Contract for the Xayaburi Hydroelectric Power Project เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีใน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กับ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด โดยเริ่มงานก่อสร้าง 15 มีนาคม 2555 มีมูลค่าสัญญาประมาณ 51,824.64 ล้านบาท และ 711.04 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริการะยะเวลาแล้วเสร็จ ประมาณ 96 เดือน
  • งานในมือ ปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็น สูง 119,933 ล้านบาท และ อนาคตจะได้งานขนาด
    ใหญ่เพิ่มเติมอีก: งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 4/54 เท่ากับ 43,933 ล้านบาท เมื่อรวมโครงการขนาดใหญ่ฝายน้ำล้นไชยะบุรี และ โรงไฟฟ้าพลังน้ำไชยะบุรี ในประเทศลาว มีมูลค่าโครงการสูงถึง 76,000 ล้านบาท ทำให้งานในมือพุ่งขึ้นเป็น 119,933 ล้านบาท และ กำลังรอผลงานประมูลอีก 2 โครงการมูลค่ารวม 30,000 หมื่นล้านบาท โดยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ CK จะเข้าไปประมูลงานเพิ่มเติมในอนาคต ได้แก่ 1.)โครงการที่ทาง CK มีการพัฒนาขึ้นมาเองโดยเฉพาะ เช่น โครงการเขื่อนในประเทศลาว127,000 ล้านบาท 2.) โครงการพลังงานไฟฟ้าจาก Solar Cell 3.) โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ 6 แสนกว่าล้านบาท 4) โครงการรถไฟความเร็วสูง 5.) โครงการ Motorway มูลค่าโครงการ 179,332 ล้านบาท และ 6.) โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 62,503 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2555 เราคาดผลการดำเนินงานจะพลิกฟื้น ประเมินยอดรับรู้รายได้จากงานก่อสร้าง จะเพิ่มขึ้น 37% เป็น 14,974 ล้านบาท และ มีผลการดำเนินงานปกติที่มีกำไรเท่ากับ 384 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.23 บาท) เทียบกับปี 2554 ที่ขาดทุนเท่ากับ 1,355 ล้านบาท
  • หุ้นซื้อขาย P/E สูง และ ภาระหนี้สูง แต่มีประเด็นข่าวบวก แนะนำ ซื้อเก็งกำไร :
    ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขาย P/E ปี 2555 ค่อนข้างสูงเท่ากับ 34.8 เท่า รวมถึงมีภาระหนี้สุทธิต่อทุนที่สูงเท่ากับ 2.78 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 9 บาท บนฐาน Forward P/BV ปี 2555 เท่ากับ 2.1 เท่า แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีประเด็นข่าวในด้านบวกเกี่ยวกับการชนะประมูลโครงการต่างๆ จึงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
  • สุรชัย ประมวลเจริญกิจ

    Read more »