skip to main |
skip to sidebar
Stcok News
ค่าเงินยูโรและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงรุนแรงหลังจากที่นาย Antonio Samaras ซึ่งเป็นผู้นำพรรค New Democracy ของกรีซได้ออกมาประกาศว่าเขาไม่สามารถที่จะรวบรวมคะแนนเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้นโอกาสจึงไปตกอยู่ในมือของนาย Alexis Tsipas หัวหน้าพรรค Syriza ซึ่งเป็นพรรคที่มีคะแนนมาเป็นอันดับที่ 2 โดยถ้าหากภายใน 3 วันนี้ยังไม่สามารถมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นคิวของพรรคอันดับที่ 3 หรือ Pasok และถ้าหากยังไม่สำเร็จอาจทำให้กรีซต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง

เรายังมองประเด็นเรื่องกรีซเป็นความเสี่ยงและ Noise ต่อตลาดในช่วงนี้ โดยถึงแม้การเข้ามาของพรรคผ่ายค้านซึ่งเป็นกลุ่มAnti-Bailout อาจทำให้กรีซต้องออกจากกลุ่มประเทศยูโรโซนซึ่งถือเป็นข่าวดีต่อยุโรปในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจทำให้ความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศยุโรปเกิดความวุ่นวายได้อีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ (WTI: - 8.5%, Brent: -6%) โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 4 ปัจจัยได้แก่
1) การปรับตัวสูงขึ้นของ Stock น้ำมันดิบในประเทศสหรัฐฯ สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 (ดูรูป)
2) ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯประจำเดือนเมษายนที่ออกมาอ่อนแอ
3) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่กลับมาแข็งค่าอีกครั้งหนึ่ง
4) การออกมาให้ข่าวของประเทศซาอุดิอาระเบียว่าระดับราคาน้ำมันปัจจุบันยังถือว่าเป็นระดับที่สูงอยู่
มุมมองของเราต่อราคาน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ปรับตวลงจากระดับ 100 และ 125 หรียญ/บาร์เรล หลังจากขาดแรงหนุนประเด็นการคว่ำบาตรอิหร่านซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเรามองว่าราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ในรอบนี้ไม่น่าจะปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 95 และ 110 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับการซื้อขายก่อนมีประเด็นเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านเกิดขึ้น เนื่องจาก Forward curve ของราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ยังคงก่อตัวรูปแบบ Backwardation อยู่ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ Supply shortage ในอนาคตอยู่
SET Index ยังคงปรับตัวแข็งแกร่งโดยสามารถยืนได้ที่ระดับ 1220 – 1230 จุด เรายังคงมุมมองเดิมว่า SET ในรอบนี้จะไม่ หลุดระดับ 1200 จุด และแนะนำสะสมหุ้นที่ระดับดัชนี 1200 – 1220 จุด โดยคาดหวังระดับดัชนีเป้าหมายที่ระดับ 1300 จุดภายในไตรมาสที่ 2 นี้
Catalyst ที่สำคัญยังคงได้แก่ประเด็นการไหลออกของเงินที่อยู่ใน U.S. Treasury หลังจากโครงการ Operation twist สิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน และคาดการณ์การเพิ่มน้ำหนักของหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งจะมีการประกาศ
ในช่วงวันที่ 15 พฤษภาคม
0 comments:
Post a Comment