Thursday, March 15, 2012

Stock,News,เลิกแปรรูปตลาดหุ้น


Every day may not be good,
but there is something good in every day.
ทุก ๆ วันอาจจะไม่ใช่วันที่ดี แต่มันก็มีสิ่งดี ๆ บางสิ่งเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน


เลิกแปรรูปตลาดหุ้น
Source - เว็บไซต์ไทยรัฐ (Th)
Thursday, March 15, 2012 05:14

คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ จะเดินทางไปประชุมร่วมกับ บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ เป็นครั้งแรกในวันพุธหน้า เพื่อมอบนโยบายให้ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ และหนึ่งในนโยบายที่จะมอบในวันนั้นก็คือ นโยบายการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ ที่ตลาดหลักทรัพย์กำลังดำเนินการอยู่วันนี้ผมมีข้อมูลจากวารสาร “การเงินธนาคาร” มาเล่าสู่กันฟังล่วงหน้ารองนายกฯกิตติรัตน์ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “การเงินธนาคาร” ฉบับล่าสุดเดือนมีนาคมอย่างชัดเจนว่า “ผมจะไม่แปรรูปตลาดหลักทรัพย์ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องแปรรูปเลย มุมมองเกี่ยวกับนโยบายตลาดทุนของผมก็คือ เลิกคิดแปรรูปเสียเถอะ” ถือเป็นนโยบายตลาดทุนที่ชัดเจนยิ่งเหตุผลที่ รองนายกฯกิตติรัตน์ ไม่เห็นด้วยกับการแปรรูปตลาด หลักทรัพย์ ก็เป็นเหตุผลที่น่ารับฟังอย่างยิ่งเหมือนกันการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Demutualization เพื่อแก้ไขการถูกครอบงำ ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในโลกที่ Demutualization ก็เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์เหล่านั้น ก่อตั้งขึ้นมาจากความร่วมมือของโบรกเกอร์นายหน้า หรือกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ร่วมมือกันก่อตั้งเป็น “ตลาดหลักทรัพย์” ขึ้นมา และดำเนินธุรกิจเพื่อประโยชน์ของผู้ก่อตั้งเป็นสำคัญ เมื่อใดที่ตลาดหลักทรัพย์มีกำไร ก็จะจ่ายผลตอบแทนให้กับโบรกเกอร์ตลาดหลักทรัพย์บางแห่งก็ไม่แข็งแรง เพราะมีทุนไม่มาก และดำเนินนโยบายที่เน้นประโยชน์ของบริษัทนายหน้าผู้ก่อตั้งเพียงอย่างเดียว ทั้งที่มีผู้ได้รับประโยชน์จากตลาดหลักทรัพย์หลายกลุ่ม เช่น บริษัทจดทะเบียน ผู้ลงทุนรายย่อยและสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้ประกอบอาชีพวานิชธนกิจ รวมทั้งรัฐบาลด้วย ดังนั้น ถ้าไม่มีการแก้ไขด้วยการทำ Demutualization ก็จะทำให้ตลาดหลักทรัพย์นั้นอ่อนแอแต่กรณีของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่มีความจำเป็นต้องดีมิว เพราะตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่เคยถูกครอบงำเลย แม้บริษัทนายหน้าหรือโบรกเกอร์จะมีสิทธิ์เสนอตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการใน บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ได้ 5 คน จากกรรมการทั้งหมด 11 คน แต่การทำงานของตัวแทนโบรกเกอร์ 5 คน ก็ไม่สามารถครอบงำหรือทำอะไรที่เป็นผลเสียในลักษณะเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเพียงอย่างเดียวได้ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ไทยก็มีทุนที่แข็งแรงจากการสะสมมา 30 ปี และก็ไม่เห็นว่าจะมีใครสามารถครอบงำตลาดหลักทรัพย์ได้รองนายกฯกิตติรัตน์ จึงฟันธงว่า ไม่ควรแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ เพื่อแก้ปัญหาการครอบงำเหมือนประเทศอื่น ถ้าแปรรูปเมื่อไรก็จะเกิดกลุ่มคนที่ต้องการกำไรสูงสุด จากการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์เป็นเป้าหมายหลัก แทนที่จะให้ตลาดหลักทรัพย์ทำงานเพื่อพัฒนาตลาดทุนของไทยทั้งหมด เมื่อไม่แปรรูปแล้ว การพัฒนาตลาดทุนต่อไป รองนายกฯกิตติรัตน์ บอกว่าจะเสนอให้ตั้ง “คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน” ขึ้นมาใหม่ เพื่อทำหน้าที่พัฒนาตลาดทุนต่อไป กรรมการชุดนี้จะไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นชื่อคนเลย จะคัดเข้ามาโดยตำแหน่ง เช่น กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เลขาธิการ ก.ล.ต. นายกสมาคมตลาดทุนทั้ง 5 สมาคม ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และจะเชิญแบงก์ชาติมาร่วมด้วยก็เป็นนโยบายที่ดีครับ ผมเห็นด้วยกับ รองนายกฯกิตติรัตน์ ว่า ตลาดหลักทรัพย์ ต้องเป็นแกนหลักในการ พัฒนาตลาดทุน เพื่อให้ตลาดทุนไทยแข็งแรงแข่งกับเพื่อนบ้านได้ ตลาดหลักทรัพย์ ไม่ควรเป็น องค์กรธุรกิจ ที่มุ่ง ทำกำไรสูงสุด เช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผิดเจตนารมณ์การก่อตั้งที่ต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์นำรายได้ไปพัฒนาตลาดทุนต่อ โดยรัฐบาล “ยกเว้นภาษีเงินได้ร้อยละ 30” เพื่อให้มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่หากำไรเพื่อแบ่งกัน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”

0 comments:

Post a Comment