Showing posts with label KTB. Show all posts
Showing posts with label KTB. Show all posts

Monday, September 10, 2012

Stock Tomorrow,HEMRAJ,SIRI,NWR



10/9/2012 17:04 ....SUPPORT…. …RESISTANCE… …..NOW…..
HEMRAJ 3.1-3.14 3.36-3.46 3.18
SIRI 2.48-2.54 2.66-2.8 2.58
NWR 0.98-1 1.06-1.1 1.03

เซียนหุ้น 100 ล้าน , ข้อผิดพลาด 10 ข้อ

อย่าเฝ้ารอให้โอกาสเดินมาหา
แต่จงเป็นคนเดินไปหาโอกาสเอง


Comment: ตลาดวันนี้ปิด 1250.93 จุด บวก 4.83  จุด   ปริมาณซื้อขาย 28045.95  ล้านบาท  หุ้นที่ให้เล่น ตามแนวรับแนวต้านครับ (SIRI ผ่าน 2.66 มีลุ้นถึง 3 บาทนะ ,NWR ผ่าน 1.04 ก็จะเบาขึ้นง่าย)





รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลให้กับสมาชิกของ http://www.stockscorner.com เท่านั้น มิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะหรือเชิญชวน เพื่อการ ซื้อ,ขาย ตราสารทุน หรือ ตราสารอนุพันธ์ ผู้อ่านควรตัดสินใจซื้อหรือขายตราสารทุน, ตราสารอนุพันธ์โดยใช้วิจารณญาณของตนเอง ทาง http://www.stockscorner.com ปราศจากความรับผิดในความเสียหายอันเกิดจากการใช้ข้อมูลในรายงานนี้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งหมด หรือบางส่วน

Read more »

Monday, April 30, 2012

Stock Focus,ROBINS,KTB

 

บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)

Meeting : แนวโน้มกำไรปี 2555 พลิกกลับมาเติบโตสูงตั้งเป้าสินเชื่อโต 6-7% YoY ส่วนแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% YoY เน้นธุรกรรมที่เกี่ยวกับกลุ่มลูกค้า SME และรายย่อย คาดแนวโน้มกำไรปี 55 เติบโตสูงถึง 44% YoY เราจึงคงแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 24 บาท


􀂃 เป้าหมายสินเชื่อยังอนุรักษ์นิยม แต่เชื่อว่าศักยภาพของ KTB จะทำได้สูงกว่าที่ประเมินไว้ : ผู้บริหารเปิดเผยในการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวันนี้ (30 เม.ย. 55) เกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจในปี 2555 โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ระดับ 6-7% YoY (เราประเมินไว้ที่ 7% YoY) แต่มีแนวโน้มที่สินเชื่อทั้งปีจะขยายตัวได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เนื่องจากทิศทางการปล่อยสินเชื่อธนาคารฯยังสดใสต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่มีการเบิกใช้ตามที่ได้ขออนุมัติไปแล้ว ส่วนสินเชื่อ SME ที่ธนาคารฯเจาะกลุ่มลูกค้ารายเล็ก จะเห็นการเติบโตในระดับสูง ในขณะที่สินเชื่อ Microfinance ที่เริ่มดำเนินงานแล้ว พบว่ายังมีช่องทางในการขยายตัวอีกมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายปล่อยสินเชื่อที่ให้ Yield สูง เพื่อพยุง NIM ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการเก็บเงินค่าธรรมเนียมนำส่ง ธปท. เพื่อชำระดอกเบี้ยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยเราประเมินว่า NIM ในปีนี้ของธนาคารฯจะปรับตัวลดลง 17 bps สู่ระดับ 2.7% ส่วนเป้าหมายการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิฯคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15% YoY (เราประเมิน 10% YoY) ซึ่งจะเน้นธุรกรรมที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อรายย่อยและ SME เป็นหลัก บวกกับธุรกรรมปริวรรตเงินตรา ด้านสัดส่วน Cost to income ratio แม้อยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มธ.พ.ขนาดใหญ่ แต่ผู้บริหารเชื่อว่ายังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ (เราประเมิน Cost to income ratio 49% ทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน) ส่วนการตั้งสำรองฯในปีนี้คาดว่า จะลดลงเหลือ 6 พันล้านบาท (ไตรมาสละ 1.5 พันล้านบาท) ลดลงถึง 55% QoQ ภายหลังจากธนาคารฯตั้งสำรองพิเศษใน 3Q-4Q54 ไปแล้ว เนื่องจากมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองฯในปี 2554 เติบโตสูงถึง 35% YoY


􀂃 คงประมาณการปี 2555-56 :
คาดแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2555-56 เท่ากับ 24,539 ล้านบาท และ 27,516 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 44% YoY และ 12% YoY ตามลำดับ เรามองว่าธนาคารฯ จะได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่วัฏจักรการลงทุนรอบใหม่ ที่ได้รับการอัดฉีดโดยรัฐบาลผ่านโครงการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคในประเทศ เพื่อบริหารทรัพยากรน้ำ และ ป้องกันอุทกภัย ซึ่งทำให้เกิดความต้องการสินเชื่อในทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกค้าองค์กรรายใหญ่SME และรายย่อย
􀂃 แนะนำซื้อ :
กำหนดราคาเหมาะสมปี 2555 ของ KTB เท่ากับ 24 บาท อิง PBV 1.86เท่า ซึ่งเรามองว่า KTB มีความน่าสนใจมากหากเทียบกับ BBL ที่เทรดอยู่ที่ระดับ 1.36 เท่าของ BV เหมือนกัน แต่คาดการณ์ ROE ปี 2555 ของ KTB สูงกว่า BBL ซึ่งอยู่ในระดับเพียง 13.5%
วีรพัฒน์ วงศ์อุไร

Read more »

Monday, April 23, 2012

Stock Focus,KTB,Apr.2012

บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)

Review : กำไรไตรมาส 1/55 พลิกกลับมาเติบโตสูง 

กำไรสุทธิใน 1Q55 ของ KTB ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ โดยปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงาน คือ รายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตสูง ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลงมากกว่าคาด และการตั้งสำรองหนี้ที่ลดลงสู่ระดับปกติ เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 55-56 ขึ้น และยังแนะนำซื้อ KTB ด้วยราคาเหมาะสม 24 บาท


  • สินเชื่อเติบโตดีกว่าคาด แม้ NIM อ่อนตัวลง แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตสูง และตั้งสำรองลดลง : KTB มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เท่ากับ 6,377 ล้านบาท เติบโตกว่า 7 เท่าตัวจากงวดที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึง 16% YoY ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดไว้ 10% เนื่องจาก (1) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นถึง 23% QoQ ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิราว 6.6% QoQ และรายการเงินปันผลรับจากกองทุนวายุภักษ์ (2) ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง 4% QoQ ส่งผลให้สัดส่วน Cost to income ratio ลดลงเหลือ 47% จากระดับ 53% ในงวด 4Q54 ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้ และ
    (3) ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่ลดลงถึง 80% QoQ และใกล้เคียงกับที่เราคาด โดยคิดเป็น Credit cost เท่ากับ 42 bps นอกจากนี้สินเชื่อสุทธิใน 1Q55 ของ KTB ยังเติบโตสูงถึง 4.8% จากสิ้นปี 2554 แม้ว่า NIM จะอ่อนตัวลงราว 8 bps มาอยู่ที่ 2.8% อย่างไรก็ตามธนาคารฯได้กลับมาเสียภาษีในอัตราใหม่ที่เท่ากับ 23% ในปี 2555 จึงทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีในไตรมาส 1/55 ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 15 เท่าตัวจาก 4Q54 ที่ได้กลับรายการภาษีจ่ายเป็นรายได้ เพราะเสียภาษีไว้เกินในช่วงต้นปี โดยรวมแล้วกำไรสุทธิ 1Q55 ของ KTB คิดเป็นสัดส่วนราว 28% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2555
  • ปรับเพิ่มสมมติฐาน NIM…ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2555-56 เพิ่มขึ้นจากเดิม
    7.5% และ 6% : โดยเราได้ปรับเพิ่มสมมติฐาน NIM ขึ้นเป็น 2.7% จากเดิม 2.6% เพื่อสะท้อนถึงทิศทางของ NIM ที่ไม่ได้หดตัวรุนแรงเหมือนเช่นที่เคยคาดไว้ ภายหลังการปรับปรุงประมาณการส่งผลให้แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2555-56 เท่ากับ 24,539 ล้านบาทและ 27,516 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 44% YoY และ 12% YoY ตามลำดับ ทั้งนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2555 ของธนาคารฯที่พลิกกลับมาเติบโตสูง เนื่องจากคาดว่าการตั้งสำรองฯจะกลับสู่ภาวะปกติที่ไตรมาสละ 1,500 ล้านบาท จากไตรมาส 3-4/55 ที่มีการตั้งสำรองพิเศษจากน้ำท่วม อีกทั้ง KTB ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 23% ในขณะที่คาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารฯในระดับสูงถึง 10% YoY เพราะการรุกธุรกรรม Trade finance ในกลุ่มลูกค้า SME ขนาดกลาง-เล็กมากขึ้น
  • คงคำแนะนำซื้อ : โดยกำหนดราคาเหมาะสมปี 2555 ของ KTB เท่ากับ 24 บาท อิง PBV 1.86 เท่า ซึ่งเรามองว่า KTB มีความน่าสนใจมากหากเทียบกับ BBL ที่เทรดอยู่ที่ระดับ 1.36 เท่าของ BV เหมือนกัน แต่คาดการณ์ ROE ปี 2555 ของ KTB สูงกว่า BBL ที่อยู่ในระดับเพียง 13.5%
  • ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะรอรับแถว 17-17.1 ครับ

    วีรพัฒน์ วงศ์อุไร  http://www.stockscorner.org/

    Read more »